“ชวลิต”เปรียบเปรย รัฐบาลตู่ เหมือนมะม่วงที่สุกงอม เพียงลมจากปากปชช.ที่เริ่มเบื่อ ก็สั่นคลอนจนหลุดจากขั้วพร้อมลงสู่ดิน
เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2563 นายชวลิต วิชยสุทธิ์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และ ส.ส.นครพนม กล่าวถึงกรณีคำตัดสินยุบพรรคอนาคตใหม่ ว่า นี่เป็นผลพวงที่เกิดภายหลังการรัฐประหารและการสืบทอดอำนาจของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่บริหารประเทศต่อเนื่องยาวนานเป็นเวลาถึง 6 ปี โดยผลจากการรัฐประหารและการสืบทอดอำนาจดังกล่าว เป็นที่ประจักษ์แล้วว่าประเทศชาติขาดความเชื่อมั่นในตัวรัฐบาลอย่างรุนแรง โดยมีผลสะเทือนตามมาทั้งทางด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และการต่างประเทศ โดยเฉพาะทางด้านเศรษฐกิจ ปากท้อง กระทบกระเทือนอย่างที่สุด จนมิอาจปฏิเสธได้
ลำพังปัญหาการเมืองที่ไม่มีเสถียรภาพก็หนักหนาอยู่แล้ว เพราะออกแบบมาเพื่อการสืบทอดอำนาจของตนเองและพวกพ้อง แต่ยังลืมนึกถึงประเด็นความเชื่อมั่นประเทศซึ่งเป็นผลประโยชน์ของชาติ จนทำให้ประชาชนเบื่อหน่ายรัฐบาลที่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนได้ และปัญหาได้จมลึกลงไปเรื่อยๆ จนยากจะเยียวยา ยิ่งเกิดกรณีการยุบพรรคอนาคตใหม่ ที่สังคมทั้งไทยและต่างประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา และสหภาพยุโรป เห็นว่าขัดกับหลักประชาธิปไตย ยิ่งซ้ำเติมสถานการณ์ภายในประเทศให้เบื่อหน่ายรัฐบาลมากยิ่งขึ้นถึงขั้นสุกงอม เพราะมองไม่เห็นหนทางว่า รัฐบาลจะแก้ไขปัญหาของประเทศได้ มีแต่จะทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง
ทั้งนี้เชื่อว่าหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ซึ่งจะมีข้อมูลความล้มเหลวในการบริหารประเทศ ตลอดจนข้อมูลการทุจริต คอรัปชั่น เผยแพร่ต่อสาธารณะอย่างแพร่หลาย เพราะประชาชนมีจิตใจจดจ่อติดตามสถานการณ์ ที่สุกงอมแล้ว สุกงอมอีก อย่างใกล้ชิด และสถานการณ์สุกงอมนั้น หมายถึง ประชาชนถึงขั้น “เบื่อ” รัฐบาลชุดนี้แล้ว จนอาจเปรียบเปรยได้ว่า มะม่วงมันสุกแล้ว เพียงลมจากปากประชาชนก็สามารถสั่นคลอนจนมะม่วงหลุดจากขั้วร่วงลงสู่พื้นดิน