วันที่ (24 พ.ย.) นาย วันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว “ทนายวันชัย สอนศิริ” โดยระบุดังนี้
“เวทีของคณะกรรมาธิการไม่ใช่ที่ระบายอารมณ์หรือระบายความใคร่ทางอำนาจ
จากข่าวที่ปรากฏว่าคณะกรรมาธิการของ ส.ส.บางคณะ ทะเลาะเบาะแว้งขัดแย้งกัน ไม่มีใครยอมใคร ต่างฝ่ายต่างปะทะกัน ไม่ว่าจะเป็นเด็ก หรือผู้ใหญ่ใส่กันเต็มที่ จนประชาชนเริ่มเอือมระอา ว่า เวทีกรรมาธิการเขามีไว้ทะเลาะกัน หรือเป็นที่แสดงอำนาจใหญ่โต ข่มกันไปข่มกันมา หรือว่าเป็นเวทีที่จะทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติได้หรือไม่ ขอทำความเข้าใจกันสักหน่อย
1.คณะกรรมาธิการเขา มีทั้งของ ส.ส. และ ส.ว. เอาไว้ให้กระทำกิจการพิจารณาสอบหาข้อเท็จจริงหรือศึกษาเรื่องใด ๆ และรายงานให้สภาทราบตามรัฐธรรมนูญ ม.129 ทั้งนี้ เขาให้ทำงานเพื่อประเทศชาติและประชาชน ไม่ให้เอาไว้ทะเลาะกัน ไม่ให้เอาไว้เป็นที่แสดงอำนาจบาตรใหญ่ หรือสนองความใคร่ทางอำนาจของใคร
2.ประธานคณะกรรมาธิการต้องเป็นหลัก วางตัวเป็นกลางเหมือนสภาใหญ่ที่มี นายชวน เป็นประธานนั่นแหละ ต้องหลอมรวมให้ทุกคนทำงานไปด้วยกันเพราะต่างพรรค ต่างคน ต่างความคิด ต่างหลาย ๆ อย่าง ประธานจึงต้องเป็นหัวหลัก ไม่ใช่เป็นหัวตอที่จะเอาอย่างไรก็ได้ และต้องวางตัวเป็นที่เคารพนับถือของสมาชิก ไม่ใช่เอาไว้ชี้หน้าด่ากันไปด่ากันมา และประธานก็ลงไปเล่นกับเขาด้วย ไป ๆ มา ๆ เด็กก็จะตบกบาล และไม่เคารพนับถือ งานก็ไม่เดิน ไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน
3.ในคณะกรรมาธิการ แต่ละคนมาจาก ส.ส. หรือ ส.ว. ซึ่งทุกคนถือว่าเท่ากันเป็นสมาชิกสภานั้น ๆ เหมือนกัน ไม่มีใครใหญ่กว่ากัน หนึ่งคะแนนเสียงเหมือนกัน ทั้งในสภาหรือในคณะกรรมาธิการ ไม่มีตำแหน่ง ผบ.ตร. อธิบดี ปลัดกระทรวง หรือรัฐมนตรี หรือพลเอก พลโท ใด ๆ ในตรงนั้นทั้งสิ้น ทุกคนเป็นสมาชิก เป็นกรรมาธิการเหมือนกันเท่ากัน ตำแหน่งในอดีตจะใหญ่โตขนาดไหน ในสภาและในคณะกรรมาธิการไม่มีแล้ว ต่างคนต่างทำงานด้วยการให้เกียรติซึ่งกันและกัน เคารพนับถือตามจารีตประเพณี แต่ทั้งนี้ก็อยู่ที่การทำตัวของแต่ละคน
4.กรรมาธิการต้องทำงาน เพื่อประเทศชาติและประชาชนเป็นหลัก เนื้องานที่ออกมาต้องเป็นประโยชน์ และเพื่อการปฏิรูปแก้ไขปัญหาให้กับส่วนรวม ไม่ใช่เรื่องส่วนตัวของใครในปัจจุบันหรืออดีต และไม่ใช่เวทีเอามัน ล้างแค้นคนนั้นคนนี้
5.ในเวทีนั้นประธาน จะมีส่วนสำคัญในการผลักดันเนื้องาน ตามอำนาจหน้าที่ให้ออกมา ต้องวางตัวให้เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ ให้ทุกคนเกรงใจเคารพนับถือ จะชอบใครไม่ชอบใครอย่าเกรี้ยวกราด ต้องลืมตำแหน่งแห่งหนในอดีต ถ้าทะเลาะกันงานก็ไม่เดิน คนก็ด่า ไป ๆ มา ๆ ก็จะเสียผู้เสียคน เสียทั้งกรรมาธิการ เสียทั้งสภา
ต้องกลับมาทบทวน สรุปบทบาทอำนาจหน้าที่ และพิจารณาศึกษาตรวจสอบตัวเองให้มาก ๆ เสียก่อน ก่อนที่จะไปศึกษาตรวจสอบคนอื่น ไม่อย่างนั้นจะทำให้กรรมาธิการเขาเสียของเสียคน … ที่พูดมาทั้งหมดนี้นะ เป็นหลักการโดยทั่วไป ส่วนจะโดนใครหรือไม่ ก็แล้วแต่สติปัญญา…”