วันชัย สอนศิริ วิเคราะห์ 3 สาเหตุรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำจะล่มหรือไม่ มาจากทะเลาะ ทุจริต และไม่มีผลงาน
เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. นายวันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวหัวข้อ “ส.ว.กับการชี้ขาดทางการเมือง” โดยมีความว่า เสียงปริ่มน้ำได้ออกฤทธิ์ออกเดชในการประชุมสภาเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ถึงขั้นแพ้มติและสภาล่มถึง 2 ครั้ง ซึ่งการเมืองเป็นเรื่องของอำนาจและผลประโยชน์ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการอยากมีอยากเป็นหรือการรักษาอำนาจก็จะเป็นการเล่นเกมชิงไหวชิงพริบกันทางการเมือง เสียงปริ่มน้ำก็จะเกิดอาการอย่างที่เห็น ทั้งการต่อรองและการเล่นเกมทางการเมือง ทำให้ประชาชนรู้สึกเอือมระอากับการเมืองถึงขนาดโจมตีด่าทอกันสารพัด ทั้งเชียร์และแช่งตามอารมณ์ของความชอบ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือประชาชนรู้สึกหวั่นไหวว่ารัฐบาลจะไปรอดหรือไม่
นายวันชัย กล่าวว่า ตามสูตรคณิตศาสตร์ทางการเมือง ใครจะเป็นรัฐบาลต้องมีเสียงจากรัฐสภา 376 เสียง แต่การดำรงอยู่ของรัฐบาลต้องใช้เสียงของสภาผู้แทนราษฎร 251 เสียงขึ้นไป มันถ่วงดุลกันอยู่อย่างนี้ จะตั้งรัฐบาลต้องใช้ทั้งสองสภา จะล้มรัฐบาลใช้สภาเดียว 251 เสียงขึ้นไป ดูแล้วถ้าจะล้มรัฐบาลในขณะที่เสียงปริ่มน้ำนั้นง่ายมาก ห่างกันอยู่ไม่กี่เสียง ดูทีท่าว่าจะล้มเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ปัญหามีอยู่ว่าล้มแล้วจะตั้งรัฐบาลได้หรือไม่ ดังนั้นรัฐธรรมนูญจึงออกแบบมาโดยเอา ส.ว.มาช่วยถ่วงดุล ประคับประคองให้ บ้านเมืองมันเดินไปในระยะเปลี่ยนผ่าน ไม่ให้มาเล่นเกม มาต่อรองมาชิงไหวชิงพริบทางการเมืองอย่างที่เป็น
“รัฐบาลจะล้มหรือดำรงอยู่ได้หรือไม่นั้นก็มาจากเหตุ 3 ประการคือ 1.พรรคร่วมรัฐบาลทะเลาะกันแล้วก็แตกกัน 2.ทุจริตโกงกินคอร์รัปชั่น 3.ไม่มีผลงาน คนเบื่อ หมดหวังหมดศรัทธา ซึ่งหมายความว่าไม่ว่าจะในสภาหรือนอกสภาที่คนมาเดินตามท้องถนนจะล้มหรือไม่ล้มก็มาจาก 3 ปัจจัยนี้” นายวันชัย กล่าว