พรรคก้าวไกล ชี้ ยังมีหวัง! อัยการสูงสุด ตอบ กมธ. กฎหมายฯ หน่วยงานรับทำคดี วันเฉลิม ในไทยได้ หากตำรวจตั้งเรื่องมา

ความคืบหน้า กรณีการหายตัวไปของ วันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ คือเครื่องหมายคำถามตัวใหญ่ที่ปรากฏชัดต่อสังคมไทย นับตั้งแต่วันที่ 4 มิ.ย. เป็นต้นมาจนถึงวันนี้ เป็นเวลา 13 วันแล้ว ที่ยังไม่มีใครสามารถติดต่อเขาได้อีก ทั้งยังมีร่องรอยหลักฐานหลายอย่างที่บ่งชี้ไปในทิศทางว่า เขาอาจถูกบังคับให้สาบสูญระหว่างการลี้ภัยในประเทศกัมพูชา เนื่องจากก่อนหน้านี้ เขาเป็นหนึ่งในนักกิจกรรมที่รัฐบาลไทยต้องการตัวซึ่งการกระทำในลักษณะนี้เข้าข่ายความผิดต่อการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง

หลายคำถามที่เกิดขึ้น คณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎรจึงได้หยิบยกเรื่องนี้เข้าสู่การประชุม มีผู้ที่มาชี้แจงทั้งหมด 8 ฝ่าย ได้แก่ ผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศ, ผู้แทนสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (OHCHR), ผู้แทนกระทรวงยุติธรรม, ผู้แทนสำนักงานอัยการสูงสุด, ผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ, ผู้แทนสำนักงานพระธรรมนูญทหารบก, ผู้แทน Human Right Watch และผู้ร้อง ส่วนเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงพนมเปญไม่สามารถเข้าร่วมประชุมได้เนื่องจากติดภารกิจ

พี่สาวของวันเฉลิม ได้เล่าให้กรรมาธิการฟังว่า น้องชายของเขาเป็นนักกิจกรรมจนกระทั่งเกิดการรัฐประหารขึ้นในปี 57 และเขาเป็นหนึ่งในหลายๆคนที่ถูกคำสั่งของ คสช. เรียก จึงทำให้ต้องหลบหนีเป็นผู้ลี้ภัยในประเทศกัมพูชา สิ่งที่เธอและครอบครัวอยากรู้ก็คือ หลังจากเกิดเหตุกับน้องชายตามที่เป็นข่าวกัน ความคืบหน้าในเรื่องนี้เป็นอย่างไร กระทรวงการต่างประเทศได้ดำเนินการไปแล้วแค่ไหน และความร่วมมือระหว่างทางการไทยกับทางการกัมพูชาเป็นไปในรูปแบบใด

กระทรวงการต่างประเทศ ตอบคำถามนี้ โดยยืนยันว่า ได้ประสานงานทางการทูตเพื่อติดตามเรื่องนี้หลังจากเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 4 มิ.ย. 63 ในวันที่ 5 มิ.ย. 63 ได้ทำหนังสือถึงกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชาเพื่อสอบถามข้อเท็จจริงในกรณีดังกล่าว และในวันที่ 11 มิ.ย. 63 เอกอัครราชทูตไทยประจำกัมพูชา ได้เดินทางเข้าพบรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศที่อาวุโสสูงสุดและเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศของกัมพูชา ซึ่งทางกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชาได้แจ้งว่า ในช่วงปี 2557-2558 วันเฉลิมได้เข้าออกประเทศกัมพูชาหลายครั้ง กระทั่งวีซ่าเข้าประเทศของเขาหมดอายุลงในวันที่ 31 ธ.ค. 2560 หลังจากนั้นทางกัมพูชาไม่ทราบความเคลื่อนไหวของวันเฉลิมอีกเลย

ผู้บังคับการกองต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ให้ข้อมูลทางคดีว่า ปัจจุบัน วันเฉลิมมี 3 หมายจับ ได้แก่

  1. หมายจับของศาลทหารกรุงเทพ ข้อหาฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งเรียกให้ไปรายงานตัวต่อ คสช. มีอายุความ 10 ปี นับตั้งแต่ 3 มิถุนายน 2557
  2. หมายศาลอาญาวันที่ 25 มิถุนายน 2561 ข้อหานำข้อมูลเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ สร้างความเสียหายต่อกาารักษาความมั่นคงต่อประเทศ มีอายุความ 10 ปี นับตั้งแต่ 10 เมษายน 2561
  3. หมายศาลอาญาในข้อหานำข้อมูล ปลอมแปลงเอกสารราชการ เข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ สร้างความเสียหายต่อการรักษาความมั่นคงต่อประเทศ มีอายุความ 10 ปี นับตั้งแต่ 18 พฤศจิกายน 2558 ทางตำรวจแจ้งว่า ขณะนี้ได้ดำเนินการเพียงหมายเดียวคือ หมายจับตาม พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ฯ ของศาลอาญาเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ยังมีคำถามจากพี่สาวอันเป็นข้อสงสัยถึงความไม่ปกติที่เกิดขึ้น ก่อนหน้าวันเฉลิมหายตัวไปไม่นานนัก ในวันที่ 13 พฤษภาคม เวลา 20.30 น. มีตำรวจ 6 นาย ไปหาแม่ที่บ้านในจังหวัดอุบลราชธานี ตำรวจกลุ่มนั้นถามแม่ว่า “วันเฉลิมอยู่ไหน?” ซึ่งไม่แปลกหากเป็นช่วงปีแรกๆที่วันเฉลิมหนีไป เพราะทหารกับตำรวจก็เคยแวะเวียนมาเป็นประจำแบบนี้ แต่ระยะหลังมาหายไปนานแล้ว เธอจึงอยากรู้ว่าตำรวจกลุ่มนี้เป็นหน่วยไหนและมาตามคำสั่งของใคร

ต่อประเด็นความคืบหน้าในการดำเนินการสืบสวนคดีของวันเฉลิม ผู้แทนอัยการสูงสุด ได้ให้ข้อมูลที่น่าสนใจว่า ความจริงแล้วทางการไทยสามารถดำเนินคดีการหายตัวไปของคุณวันเฉลิมได้ไม่จำเป็นต้องเป็นทางการกัมพูชาเท่านั้น โดยเริ่มจากการแจ้งความกับตำรวจเพื่อให้ทำสำนวนการสอบสวนส่งต่อให้อัยการสูงสุดซึ่งมีหน้าที่โดยตรงเป็นพนักงานสอบสวนในกรณีที่มูลคดีเกิดที่ต่างประเทศ

ในเรื่องนี้ Rangsiman Rome – รังสิมันต์ โรม โฆษกคณะกรรมาธิการ ได้ถามย้ำต่อฝ่ายตำรวจว่า การที่อัยการจะทำเรื่องได้ต้องให้พนักงานสอบสวนชงเรื่องให้ ซึ่งเป็นเวลามาหลายวันกลับเพิ่งทราบกลไกนี้ในวันนี้ แต่ทางตำรวจควรจะต้องรู้อยู่แล้วว่ามีช่องทางนี้ ซึ่งทางตำรวจให้เหตุผลวว่า ข้อเท็จจริงและพฤติการณ์แห่งคดียังไม่ยุติ จึงต้องรอและการดำเนินต้องประสานให้ทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติทราบ

ในกรณีนี้จึงมีมติจากที่ประชุมกรรมาธิการแจ้งให้พี่สาวนายวันเฉลิม ดำเนินการตามที่ผู้แทนสำนักงานอัยการสูงสุดได้นำเสนอแนวทางการแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษในคดีนี้ ซึ่งเธอเห็นด้วยที่จะดำเนินการตามคำเสนอแนะนั้น

นอกจากนี้ ยังมีคำถามจากที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการเกี่ยวกับผังขบวนการหมิ่นสถาบันที่นำเสนอโดยสื่อหลายสำนักและเชื่อว่าน่าจะออกมาจากหน่วยงานความมั่นคง ซึ่งในผังนี้มีรายชื่อ 40 ราย หนึ่งในนั้นคือวันเฉลิม การที่มีผังลักษณะนี้ออกมาอาจเป็นเหตุผลที่ทำให้ผู้มีรายชื่ออยู่ในผังต้องหนีออกไปและไม่กล้าที่จะกลับมาต่อสู้คดี

พล.ต.บุรินทร์ ทองประไพ ฝ่ายกฎหมาย คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในฐานะผู้เกี่ยวข้องกับคดีลักษณะนี้ ระบุว่า คดีของวันเฉลิมเกี่ยวข้องกับการเมืองเท่านั้น ไม่ใช่การพาดพิงสถาบันตามคดี 112 และผังที่อ้างถึงนั้นเขาไม่เคยเห็นมาก่อน ไม่ทราบผู้กระทำ หากเป็นผังที่ออกมาจากหน่วยงานรัฐจะต้องระบุหน่วยงานที่ทำเสมอ

สำหรับผลการประชุม นอกจากการแนะนำให้พี่สาวของวันเฉลิมใช้กระบวนการการร้องทุกข์กล่าวโทษผ่านอัยการสูงสุดซึ่งมีหน้าที่โดยตรงเป็นพนักงานสอบสวนในกรณีที่มูลคดีเกิดที่ต่างประเทศแล้ว คณะกรรมาธิการได้ให้ สตช. รายงานข้อเท็จจริงต่อกรรมาธิการ กรณีมีเจ้าหน้าที่ตำรวจไปเยี่ยมคุณแม่ของวันเฉลิม ที่จังหวัดอุบลราชธานี และสุดท้าย คณะกรรมาธิการยืนยันให้มีการผลักดันร่าง พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหายฉบับที่ภาคประชาชนนำเสนอ โดยมอบหมายให้คณะอนุกรรมาธิการศึกษาการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ดำเนินการพิจารณาร่วมกับภาคประชาชนโดยเร็ว และให้นำเสนอเพื่อขอมติคณะกรรมาธิการส่งเข้าพิจารณาในสภาผู้แทนราษฎรต่อไป

ท่ามกลางความมืดมิด ที่ก่อนหน้านี้ดูเหมือนว่าหน่วยงานต่างๆ จะพากันช่วยตามหาความจริงอย่างช้าๆ และเย็นชา โดยเฉพาะการหยิบยกคำอธิบายว่า เหตุที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและต้องรอทางกัมพูชาเท่านั้น แต่คำตอบที่ได้ในคณะกรรมาธิการวันนี้กลับได้สร้างความชัดเจนอย่างหนึ่งว่า หากเจ้าหน้าตำรวจซึ่งเป็นต้นทางกระบวนการยุติธรรมขยับอีกสักนิด กลไกยุติธรรมอย่างอัยการก็จะสามารถเข้าไปร่วมตามหาความจริงได้

กรรมาธิการและการมีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎร อาจไม่ใช่หน่วยงานที่มีหน้าที่โดยตรง แต่ก็เป็นเสมือนอีกที่พึ่งอันเป็นปากเสียงแทนประชาชน แม้ว่าฟันเฟืองเล็กๆ นี้จะสามารถขยับขับเคลื่อนสังคมไปข้างหน้าได้ไม่เร็วนัก แต่ก็ขยับได้อีกนิดหนึ่ง เป็นอีกนิดที่เป็นความหวังถึงอนาคตใหม่ที่จะสว่างไสวต่อไปในวันข้างหน้าได้

ข่าวล่าสุด

ดูทั้งหมด

ผิดแค่ไหน! พ่อค้าร้านขาหมูประกาศหยุดขาย หลังถูกร้องเรียนเสียงดัง

พ่อค้าร้านข้าวประกาศ หยุดขายขาหมู หลังเพื่อนบ้านร้องเรียน สับหมูรบกวนเสียงดัง ล่าสุดเทศบาลนัด 2 ฝ่ายไกล่เกลี่ยพรุ่งนี้

สพฐ. แจงปม ผอ.โรงเรียนหวงเก้าอี้ ที่ร้อยเอ็ด ชี้! ผิดวินัยไม่ร้ายแรง

สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เผยผลสรุป ผอ.โรงเรียนหวงเก้าอี้ พบผิดวินัยไม่ร้ายแรง เตรียมลงดาบทางวินัย แต่ให้โอกาสปรับปรุงตัว

ณเดชน์ ใจวูบ! หลังเห็นกระแสข่าว เลื่อนงานแต่ง พร้อมขอโทษ ญาญ่า

ณเดชน์ คูกิมิยะ ถึงกับใจวูบ! หลังเห็นกระแสข่าว เลื่อนงานแต่ง บานปลายสร้างความเข้าใจผิด พร้อมขอโทษ ญาญ่า อุรัสยา

แชร์สนั่น! “ซีอิ๊วขาวแบบเม็ด” นวัฒกรรมใหม่เด็กสมบูรณ์ พกง่าย ละลายเร็ว

ชาวเน็ตอึ้ง! เด็กสมบูรณ์เปิดตัว “ซีอิ๊วขาวแบบเม็ด” นวัฒกรรมใหม่ ของซีอิ๊วขาว มาพร้อมกับสโลแกน พกสะดวก ละลายไวใน 5 วินาที

ป๊ายปาย โอริโอ้ โพสต์ยินดี สมรสเท่าเทียมผ่าน เผยเป็นวันที่รอคอยมานาน

ป๊ายปาย โอริโอ้ โพสต์ข้อความร่วมยินดี เมื่อสมรสเท่าเทียมผ่านครม. พร้อมเผยเป็นวันที่รอคอยมานานมาก โลกเปิดกว้าง ไม่จำกัดเพศ
ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า