วันที่ 3 มีนาคม 2563 นพ. วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารพรรครวมพลังประชาชาติไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “Warong Dechgitvigrom” ระบุว่า..
“ประชาธิปไตยกับเผด็จการ….หลงทาง??
หลายคนบอกว่ารัฐธรรมนูญปี 40 เป็นประชาธิปไตยสูงมาก แต่ทำไม รัฐบาลที่อ้างว่าเป็นฝ่ายประชาธิปไตย จึงถูกประชาชนมาขับไล่ และนำไปสู่การรัฐประหารที่มีประชาชนสนับสนุน ในปี 2549
พอมาถึงรัฐธรรมนูญปี 50 ประชาชนนับล้าน ก็ออกมาขับไล่รัฐบาลที่อ้างว่า เป็นฝ่ายประชาธิปไตย ในปี 2557 และนำไปสู่การรัฐประหารที่มีประชาชนมาสนับสนุนอีกเช่นเคย
แสดงว่าการแก้ปัญหาประเทศ เพียงแค่ว่าประชาธิปไตยกับเผด็จการนั้นไม่เพียงพอ และถ้าเราเอาโจทย์แค่นี้มา โดยไม่ยอมรับความจริงของปัญหา ที่เกิดจากนักการเมือง และพรรคการเมืองที่ได้อำนาจ ประเทศก็จะวนเวียนซ้ำซาก
และเมื่อมีการปลุกระดม เรื่องประชาธิปไตยกับเผด็จการเพื่อไปสู่การชุมนุมใหญ่ ทุกครั้งก็ต้องมีคนตาย บาดเจ็บ คนที่รับกรรมก็คือประชาชน และเรื่องก็ใช่ว่าจะจบ จะวนเวียนซ้ำซากตั้งแต่ผมลืมตา มาจนถึงวันนี้และจะเกิดขึ้นซ้ำอีก
วันนี้เรากำลังตีโจทย์ประเทศผิดหรือไม่???
ส่วนตัวผมมองว่า ทหารทำอะไรไม่ได้เลยถ้าไม่มีประชาชนสนับสนุน และประชาชนจะสนับสนุนก็ต่อเมื่อ ทั้งนักการเมืองและพรรคการเมืองใช้อำนาจเลวร้าย จนเขาทนไม่ได้
ทางออกคือ ทำอย่างไรที่จะให้ประชาชนคุมพรรคการเมืองได้ตั้งแต่ต้นทาง ไม่ใช่แค่ไปหย่อนบัตรเลือกตั้งไม่กี่วินาที
เพราะจริงๆแล้ว วันนี้นายทุนเขาเป็นคนคุมพรรคการเมือง ไม่ใช่ประชาชนคุม ประชาชนเป็นเพียงผู้รับรองผ่านคูหาเท่านั้น หลังจากนั้นทิศทางพรรคการเมืองก็ขึ้นกับ นายทุนที่เป็นเจ้าของพรรค และจะเอาประชาชนมาอ้างตลอด
พรรคที่มีนายทุนสามานย์เป็นเจ้าของ ก็จะออกนโยบายสามานย์ โกงบ้านเมืองแบบซับซ้อน ใช้อำนาจไม่ชอบ
พรรคที่มีนายทุนล้มเจ้าคุม ก็จะมีแนวทางเพื่อล้มเจ้า ทำลายศาล ทำลายกองทัพ
พรรคมีมีนายทุนแบ่งผลประโยชน์ ก็จะขอแค่ผลประโยชน์
ต่อให้แก้รัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย กำจัดกองทัพให้อ่อนแอเพื่อป้องกันการปฏิวัติ แต่ถ้าไม่หาทางให้ประชาชนมาคุมพรรคการเมืองตั้งแต่ต้นทาง ของระบอบประชาธิปไตย ปัญหาประเทศก็จะวนเวียนซ้ำซาก
เราจะทำอย่างไรให้ประชาชนส่วนใหญ่ เข้าไปคุมพรรคการเมืองให้ได้ หรือ ถึงเวลาแล้วที่ต้องออกกฏหมายว่าต้องเป็นหน้าที่ของประชาชน ????”
