เมื่อวันที่ 9 ต.ค. 2564 นายแพทย์วรงค์ เดชกิจวิกรม หรือ หมอวรงค์ หัวหน้าพรรคไทยภักดี ถือฤกษ์ 09.09 น. แถลงเปิดตัวพรรคไทยภักดี ที่อาคารชื่นฤทัยในธรรม จ.นนทบุรี โดยในการแถลงข่าวเปิดตัวครั้งนี้ได้มีการประกาศรับสมัครสมาชิกและว่าที่ผู้สมัครส.ส. ท่ามกลางบรรยากาศของการแถลงข่าวเปิดตัวพรรคที่เป็นไปอย่างคึกคัก
นพ.วรงค์ กล่าวว่า ในช่วง 1 ปีเศษที่ผ่านมา มีกระบวนการล้มล้างสถาบัน โดยเห็นชัดเจนที่จาบจ้วงเบื้องสูง อ้างจะปฏิรูปสถาบัน เพื่อที่จะแก้ไข ม.112 และแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ โดยใช้วิธีการยุยงปลุกปั่นเยาวชนจากอาจารย์ในมหาวิทยาลัย กระบวนการเหล่านี้ขยายใหญ่โต เชื่อมโยงทั้งในสถา นอกสภา องค์กรต่างประเทศ และเครือข่ายต่างประเทศ ที่ผ่านมาเราทำได้เพียง 2 อย่างคือเปิดเผยความจริงและพยายามใช้ข้อกฎหมาย แต่ทำแค่ 2 อย่างนั้นไม่เพียงพอ โดยสิ่งที่ต้องทำเพื่อให้เกิดความยั่งยืนต่อสถาบันหลักของชาติมากที่สุดคือ ประชาชนต้องอยู่ดีกินดี รัฐบาลต้องซื่อสัตย์ โปร่งใสและตรวจสอบได้
หมอวรงค์ เคลื่อนไหว! หลังถูก พิมรี่พาย ฟาดกลับว่าเลียเก่ง ยืนยันไม่คิดจับผิดใคร
นพ.วรงค์ กล่าวต่อว่าปัญหาที่เป็นรากเหง้าของประเทศในอดีตที่ผ่านมาเกิดจากนักการเมือง นำไปสู่การปฏิวัติรัฐประหาร มีการตั้งคณะกรรมการยกร่างรัฐธรรมนูญขึ้นมา และจะเห็นได้ชัดว่าในรัฐธรรมนูญ 60 นั้น ระบุไว้ในหมวดของการเลือกตั้ง ว่าการเลือกตั้งในอดีตที่ใช้บัตร 2 ใบ ส.ส.ไม่ได้มาจากประชาชน แต่ ส.ส.คือตัวเเทนของพรรคการเมืองและนายทุนเจ้าของพรรค
หมอวรงค์ แนะ 5 สิ่งรัฐบาลควรตระหนัก พร้อมสนับสนุนปลดล็อคชุดตรวจโควิด!
พรรคไทยภักดีสัญญาว่าจะเข้าไปปราบโกง รวมไปถึงปฏิรูปตำรวจ ปฏิรูปการศึกษา ปฏิรูปราคาพืชผลทางการเกษตร โดยจะเห็นว่าปัญหาทุกอย่างเกิดจากการทุจริตคอร์รัปชั่นทั้งนั้น และขอยืนยันว่าพรรคไทยภักดี เป็นพรรคของประชาชนที่จะไม่ขอรับเงินทุนแบบผูกชาติ จะเอาเงินมาให้เป็นร้อยล้านก็ไม่เอา เพราะเชื่อว่านายทุนที่มีขนาดใหญ่เมื่อลงทุนแล้ว ก็ต้องมาหาผลประโยชน์จากประชาชน
ขณะเดียวกัน นพ.วรงค์ ยังประกาศพร้อมรับไม้ต่อตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แต่ย้ำว่าพล.อ.ประยุทธ์จะส่งไม้ต่อหรือไม่อยู่ที่เสียงของประชาชน และพร้อมสู้สนามเลือกตั้งในทุกกติกาไม่ว่าบัตรเลือกตั้งใบเดียว หรือบัตรสองใบ พร้อมกับยืนยันว่าจะส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งครบทุกเขต ไม่ว่ากฎหมายจะกำหนด 350 เขต หรือ 400 เขต และเปิดเผยความคืบหน้าของพรรคในกระบวนการคัดเลือกผู้สมัครได้เกือบครบทั่วประเทศแล้ว