วันที่ 4 กรกฎาคม 2563 วัฒนา เมืองสุข สมาชิกพรรคเพื่อไทย ได้โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก โดยระบุว่า
“สมาชิกพรรคฝ่ายค้านแสดงความห่วงใย ในการจัดงบประมาณ พ.ศ. 2564 เพราะตัวเลขทางเศรษฐกิจที่บอกความจริงเสมอส่งสัญญาณแบบนั้น แต่ดูเหมือนรัฐบาลจะยังไม่เข้าใจหรือเข้าใจแล้วแต่ไม่รู้จะหาทางออกอย่างไร
ตัวเลขทางเศรษฐกิจที่ส่งสัญญาณอันตรายแล้ว ได้แก่ (1) ตัวเลขการจัดเก็บภาษีที่ได้ต่ำกว่าประมาณการมาตลอดตั้งแต่ยึดอำนาจ แสดงว่าคนไทยขาดกำลังซื้อจึงเก็บภาษีได้ต่ำ (2) รัฐบาลต้องก่อหนี้กู้เงินมาชดเชยการขาดดุลงบประมาณ ตั้งแต่ปี 2558-2564 และกู้มากขึ้นเรื่อย ๆ โดยไม่มีแนวโน้มจะหยุดกู้ (3) หนี้ครัวเรือน ณ สิ้นปี 2562 สูงถึง 13.47 ล้านล้านบาท หรือเท่ากับ 85% ของจีดีพี ซึ่งการมีหนี้เยอะจะเป็นตัวฉุดกำลังซื้อของประชาชนทำให้การฟื้นฟูเศรษฐกิจยากยิ่งขึ้น (4) หนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นเดือนมกราคม 2563 จำนวน 7.0 ล้านล้านบาท เป็นหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรง 5.68 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นหนี้ที่พลเอกประยุทธ์กู้เอง 3.28 ล้านล้านบาท ยังไม่รวมเงินกู้ตาม พรก. อีก 1.0 ล้านล้านบาท ดังนั้น ฉายา “นักกู้แห่งลุ่มน้ำเจ้าพระยา” จึงไม่ได้มาเพราะโชคช่วย ตัวเลขทั้งหมดสะท้อนถึงความสามารถของรัฐบาลในการบริหารประเทศ
สำนักบริหารหนี้สาธารณะประเมินว่า ณ สิ้นปี 2564 หนี้สาธารณะของไทยจะอยู่ที่ร้อยละ 58 ของจีดีพี ทั้งนี้ บนเงื่อนไขที่ว่าเศรษฐกิจ ในปี 2563 จะต้องติดลบไม่เกิน 5% และเศรษฐกิจ ปี 2564 จะต้องเติบโต 5% หากผิดไปจากนี้หนี้สาธารณะชนเพดาน 60% ทำให้รัฐบาลก่อหนี้ไม่ได้อีก แต่ ธปท. เพิ่งแถลงว่า ปี 2563 เศรษฐกิจจะติดลบถึง 8.1% นั่นคือ รัฐบาลจะจัดทำงบประมาณไม่ได้เพราะกู้ไม่ได้อีกจึงไม่มีงบลงทุน หายนะก็จะเกิดกับประเทศและประชาชน ด้วยการบริหารแบบนี้ จึงเกิดวิวาทะว่า “โง่” ส่วนใครจะเห็นว่านายกรัฐมนตรีเป็นคนฉลาดถึงได้บริหารประเทศจนบรรลัยได้ขนาดนี้ ก็ถือเป็นเสรีภาพทางความคิด เพราะเราอยู่ในระบอบประชาธิปไตย
วัฒนา เมืองสุข
4 กรกฎาคม 2563”