“วิษณุ” แจง “ประธานสภา” เป็นผู้ชี้ขาดคุณสมบัติ “ธนาธร” เป็นกมธ.วิสามัญงบประมาณ 2563 ได้หรือไม่ ชี้ คนนอก-คนในก็เป็นได้ ไม่มีเหตุให้ต้องสงสัย
เมื่อวันที่ 24 ต.ค. นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่การถกเถียงคุณสมบัติของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่ร่วมเป็นคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 เนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. เป็นการชั่วคราวว่า จะไม่ตอบตรงๆในเรื่องนี้ แต่การเป็น กมธ. วิสามัญคือ คณะบุคคลที่ตั้งโดยสภาฯให้ไปทำหน้าที่แทน จึงเป็นคนของสภา และตามข้อบังคับของสภาฯ กมธ.วิสามัญต่างจาก กมธ.สามัญที่ต้องเป็นส.ส.เท่านั้น แต่กมธ.วิสามัญเป็นได้ทั้งบุคคลภายนอกและส.ส. ทั้งนี้ ประธานสภาจะต้องชี้ขาด หากชี้ขาดไปแล้วไม่เป็นที่ยุติ จะไปกระบวนการอื่นก็สุดแล้วแต่ แม้ทุกเรื่องจะไปจบที่ศาลรัฐธรรมนูญ เพราะไม่สามารถจบในขั้นต้นได้ แต่ไม่อยากไปย้ำมัน เพราะจะถูกมองว่าไปศาลอีก ซึ่งเรื่องนี้ตนอยู่ในซีกรัฐบาล คงไม่สามารถออกความเห็นได้จะเป็นการเสียมารยาท
“ในอดีตเคยมีกรณีเช่นนี้เกิดขึ้นแล้ว ที่มีผู้ถูกสั่งให้พักการปฏิบัติหน้าที่ แล้วมาเป็นกมธ.วิสามัญ รวมถึงเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเรื่องมารยาท เพราะในอดีตเคยมีบางพรรคโควตาเต็ม แล้วไปฝากโควตากับพรรคอื่น ดังนั้นอย่าเอาการตั้งบุคคลภายนอกมาเทียบ เพราะข้อบังคับ กมธ.วิสามัญ ประกอบด้วยผู้ที่ได้เป็น และไม่ได้เป็นสมาชิกสภาก็ต้องให้ชัดว่า คนที่มาเป็นคืออะไร แต่นายธนาธรหากเข้าในโควตาคนนอกก็เป็นได้ เหมือนนายวราเทพ และอีกหลายคน ส่วนคนที่เป็นส.ส. ก็ชัดว่า เป็นคนใน กรณีนี้คนจึงสงสัยว่า คนนอกหรือคนใน หากให้ผมตอบกลางๆ ก็ไม่ต้องไปสงสัย เมื่อสภาเป็นคนตั้ง จะเป็นคนนอกหรือคนในได้ จึงไม่มีเหตุที่ให้สงสัย ปัญหาอยู่ที่คนสงสัยที่ต้องไปหาทางออก โดยกลไกสภา” นายวิษณุ กล่าว
นายวิษณุ กล่าวว่า ที่ตนอธิบายคือหลักการ ซึ่งคนนอกหรือคนใน กมธ. วิสามัญไม่มีอะไรแตกต่างกัน ทั้งในเรื่องเบี้ยประชุม สิทธิการโหวตใน กมธ. วิสามัญก็เท่ากัน แต่เมื่อเข้าสู่วาระ 2 และวาระ 3 ในสภา กมธ. วิสามัญไม่สามารถโหวตได้ไม่ว่า จะเป็นส.ส.หรือไม่เป็น ส.ส. ก็ตาม ส่วนที่มีการมองว่า พรรคอนาคตใหม่ รู้อยู่แล้วเรื่องนี้จะเป็นปัญหา แต่ยังเสนอชื่อนายธนาธร เพื่อให้เป็นประเด็นทางสังคมนั้น มองว่าเช่นเดียวกับคนที่ค้าน ก็ต้องการให้เป็นประเด็นทางสังคมเหมือนกัน