เมื่อวันที่ 2 เม.ย. ที่ศาลปกครองกลาง ศาลนัดอ่านคำพิพากษา คดีระหว่าง น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ฟ้อง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กับพวกรวม 9 ราย เป็นผู้ถูกฟ้อง กรณีขอให้ศาลเพิกถอนคำสั่งกระทรวงการคลังที่ ที่ให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน จำนวนกว่า 35,000 ล้านบาท ในฐานะนายกรัฐมนตรี และประธานกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ที่ปล่อยให้มีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าวและเพิกเฉยไม่ระงับยับยั้งความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่ราชการตามอำนาจหน้าที่ เป็นทำให้กระทรวงการคลังได้รับความเสียหาย
ศาลปกครองกลาง สั่ง “บุญทรง” พร้อมพวกชดใช้ทุจริตจำนำข้าวกว่า 1.5 หมื่นล้าน
ทั้งนี้ ศาลปกครองกลางใช้เวลาอ่านคำพิพากษาประมาณ 2 ชั่วโมงเศษ มีคำสั่งเพิกถอน คำสั่งกระทรวงการคลัง ที่ 1351/2559 ลงวันที่ 13 ต.ค. 2559 ที่ให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนจากความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าว จำนวน 20% หรือประมาณ 35,000 ล้านบาท ของความเสียหายทั้งหมด 1.78 แสนล้านบาท นอกจากนี้ ยังให้เพิกถอนคำสั่งของกรมบังคับคดี กับพวกที่ออกคำสั่ง หรือประกาศใด ๆ ที่ดำเนินการเกี่ยวกับการอายัดทรัพย์สิน น.ส.ยิ่งลักษณ์
วิษณุ ชี้ คดีทุจริตจำนำข้าวยังไม่หมดอายุความ ยังต้องไล่ยึดทรัพย์อีกเพียบ
ศาลปกครองกลาง ระบุว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้น เนื่องมาจากการกระทำของเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติการที่ย่อมจะมีประสบการณ์และเล็งเห็น ถึงความเสียหายที่จะเกิดขึ้น กระทบต่อระเบียบวินัยการเงินการคลังในขณะที่นางสาวยิ่งลักษณ์ไม่สามารถ ดำเนินการสั่งให้ระงับยับยั้งโครงการได้เพียงคนเดียว