27 ม.ค.60 เวลา 13.30 น. ที่ห้องประชุมสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.พิษณุโลก (พม.พิษณุโลก) นายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ ผู้ว่าราชการ จ.พิษณุโลก นายธานินทร์ สมบูรณ์สาร พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพิษณุโลก ได้พา น.ส.รสสุคนธ์ เนียมกลาง หรือ “น้องจ๋า” เข้าพบพ่อและแม่ของน้องจ๋า ภายหลังลงเครื่องถึงประเทศไทยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พร้อมขอบคุณทุกภาคส่วนที่มีส่วนผลักดันให้ได้กลับประเทศ ภายหลังที่ถูกจับติดคุกที่ประเทศโอมาน ตั้งแต่เมื่อวันที่ 23 ต.ค.59 ที่ผ่านมา
สืบเนื่องจากข่าวที่ นางสุนทรี เนียมกลาง อายุ 52 ปี ได้เข้าขอความช่วยเหลือจากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.พิษณุโลก กรณี ลูกสาว คือ น.ส.รสสุคนธ์ เนียมกลาง อายุ 32 ปี ที่ได้เดินทางไปหาเพื่อนที่ประเทศโอมาน และถูกจับเนื่องจากพบยารักษาโรคประจำตัวจำนวนมาก และยาบางตัวมีส่วนผสมของสารเสพติด หลังจากพยายามช่วยเหลือลูกแต่ติดปัญหาขั้นตอนในเรื่องประวัติการรักษาและใบรับรองเกี่ยวกับยาเฉพาะบางตัว แต่ปรากฏว่ายาที่ น.ส.รสสุคนธ์ หรือ “จ๋า” ซึ่งเป็นยารักษาโรคประจำตัวและจ่ายยาโดย รพ.พุทธชินราช นั้น มีตัวยาบางตัวเป็นยาต้องห้ามของประเทศโอมาน จึงถูกเจ้าหน้าที่ของโอมานจับและถูกคุมขัง จึงพยายามเขียนจดหมายถึงมารดาขอความช่วยเหลือ ระหว่างถูกควบคุมตัวตลอด 2 เดือน
ทางน้องจ๋า เมื่อเจอหน้าพ่อและแม่ต่างโผเข้าสวมกอดและร้องไห้ ขอโทษพ่อและแม่ที่ทำให้เป็นห่วง บอกว่าจะไม่ไปอีกแล้ว พร้อมกล่าวว่า “ต้องขอขอบคุณกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สถานทูตไทย และขอบคุณ พี่ ๆ สื่อมวลชนที่นำเสนอข่าว ขอบคุณทุกกำลังใจ ขอบคุณทุกความช่วยเหลือที่ทำให้ได้กลับบ้าน ถ้าหนูไม่ได้รับความช่วยเหลือคงไม่ได้กลับบ้านเร็วแบบนี้ ต่อไปจะบวชถือศีลที่วัดบ้านเกิดเป็นเวลา 1 เดือน และจะไม่ไปอีกแล้ว ไม่มีที่ไหนกินอิ่มนอนหลับเหมือนบ้านเรา คุยกันคนละภาษา คุยกันไม่รู้เรื่อง ขอความช่วยเหลือจากใครก็ไม่ได้ เป็นบทเรียน อยากฝากคนทุกที่จะเดินทางไปต่างประเทศ ควรศึกษาหาข้อมูลของประเทศที่จะเดินทางไป อย่างหนูใช้ชีวิตอยู่ในคุก 4 เดือนมันทรมาน ยังมีเพื่อนคนไทยผู้หญิงที่ยังอยู่ในคุกที่โอมาน อีก 32 คน อยากให้หน่วยงานเข้าไปช่วยเหลือ ทุกคนรอความช่วยเหลืออยู่ค่ะ”