หนุ่มกลัวเมียจับได้ หลังนำเงินไปเลี้ยงกิ๊กหมดตัว วางแผนโทรแจ้งความ191 ถูกปล้น เจอข้อหาคดีอุกฉกรรจ์ ยอมความไม่ได้ จำคุก ไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 6000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
พ.ต.อ.ชวิศ ศรีจันทร์ รอง ผบก.ภ.จว.อุดรธานี พ.ต.อ.ภูมิวิทย์ เวชกามา ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี พ.ต.อ.วิธ มุทสินธุ์ ผกก.สส.ภ.จว.อุดรธานี พ.ต.ท.พัฒนศักดิ์ อาณัติอักษร สว.สส.ภ.จว.อุดรธานี นำตัว นายธีระพงศ์ สุวรรณ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 143 หมู่ 2 ต.หนองบัวใต้ อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู มาสอบสวนปากคำที่ สภ.เมืองอุดรธานีหลังจากโทรศัพท์แจ้ง 191 ว่าถูกคนร้ายปล้นทรัพย์ เหตุเกิดที่บ้านหนองโอน ถนนอุดรธานี –กุดจับ ต.เชียงพิณ อ.เมือง จ.อุดรธานี เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 3 พฤษภาคม
สืบเนื่องจาก เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 3 พฤษภาคม นายธีระพงศ์ ได้โทรศัพท์แจ้งศูนย์วิทยุ 191 ว่า ถูกคนร้าย 6 คน ดักปล้นทรัพย์ ที่บ้านหนองโอน ถนนอุดรธานี –กุดจับ ต.เชียงพิณ อ.เมือง จ.อุดรธานี เมื่อตำรวจออกไปตรวจที่เกิดเหตุ ไม่พบผู้เสียหาย จนเวลา 09.20 น.วันที่ 4 พฤษภาคม นายธีระพงศ์ ได้เดินทางมาแจ้งความต่อ พ.ต.ต.แดนชัย มูลป้อม สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ว่า ขณะขี่รถกลับมาจาก อ.กุดจับ จ.อุดรธานี ถึงที่เกิดเหตุได้มีคนร้ายเป็นชาย 6 คน ขี่รถจักรยานยนต์ 3 คัน ประกบเอามีดจี้ให้จอดรถ แล้วใช้ขวดตีศีรษะ ชิงเอากระเป๋าสะพาย ข้างในมีเงินสด 17300 บาท พระเครื่อง 30 องค์ มือถือ 1 เครื่อง และ เอกสารทางราชการหลบหนีไป
ต่อมาเช้าวันนี้ พ.ต.ท.พัฒนศักดิ์ผน สว.สส.ภ.จว.อุดรธานี ได้นำตัวนายธีระพงศ์ มาสอบสวน แต่พบคำให้การมีพิรุธหลายอย่าง จนในที่สุดนายธีระพงศ์ ได้ยอมรับสารภาพว่า โกหกว่าโดนปล้น โดยตนมีอาชีพขายหวยใต้ดิน เช่าบ้านลักลอบเปิดร้านขายหวยใต้ดินกับภรรยาที่ตลาดไทยศิริ บ้านนาทราย ต.หนองนาคำ อ.เมือง จ.อุดรธานี หลังหวยประจำวันที่ 2 พฤษภาคม ออก และตนต้องเก็บเงินไปส่งเจ้ามือ โดยภรรยาไว้วางใจให้ตนเป็นคนเก็บเงิน 17,300 บาท โดยไม่รู้ว่าตนได้แอบมีกิ๊กที่ อ.กุดจับ
นายธีระพงศ์ บอกอีกว่า เช้าวันที่ 3 พฤษภาคม ได้ขี่รถ จยย.ไปเก็บเงินค่าหวยกับลูกค้า แล้วโอนเงินไปให้เจ้ามือ 5,000 บาท เหลือ 12,300 บาท ที่จะต้องนำไปให้ภรรยา แต่ตนได้ขี่รถ จยย.รับกิ๊กไปเที่ยว เลี้ยงอาหารหมด 12,300 บาท ขณะขี่รถกลับบ้าน ตนกลัวภรรยาจะถามหาเงินที่เหลือ แต่ตนกลัวภรรยามากกว่ากลัวตำรวจ จึงได้วางแผนว่าโดนปล้นเงิน และโทรศัพท์ไปแจ้ง 191 แต่เมื่อกลับถึงบ้านคิดว่าจะต้องทำให้แนบเนียน จึงมาแจ้งความลงบันทึกประจำวันที่โรงพัก นำกลับไปให้ภรรยาดูเพื่อให้เชื่อ แต่วันนี้เมื่อตำรวจเรียกตัวมาสอบสวน ทำให้ตนตอบคำถามไม่ได้ จนต้องยอมรับสารภาพว่า ได้โกหกแจ้งความเท็จ ไม่ได้โดนปล้นจริง
ด้าน พ.ต.อ.ชวิศ ศรีจันทร์ ผบก.ภ.จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า แจ้งความเท็จว่าโดนปล้นทรัพย์ ซึ่งเป็นคดีอุกฉกรรจ์ ซึ่งยอมความไม่ได้ ผิดตามมาตรา 173 แจ้งข้อความแก่พนักงานสอบสวน หรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจ มีโทษจำคุก ไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 6000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งศูนย์วิทยุ 191 ตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี ได้รับโทรศัพท์แจ้งเหตุวันละ 900-1,000สาย แต่มีเรื่องจริงประมาณ 15 เรื่อง เรื่องบริการประชาชน 30 เรื่อง นอกนั้นจะเป็นโกหก เรื่องเท็จ หลอกตำรวจ ทำให้ผู้ที่มีความเดือดร้อนจริงๆ เสียโอกาส เช่นคดีอุบัติเหตุอาจเสียชีวิต จึงขอร้องวิงวอนให้ประชาชนอย่าแจ้งเรื่องเท็จ ให้หยุดพฤติกรรมนี้