เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราบ กองกำกับการ6 กองบังคับการปราบปราม จับกุม นายเศรษฐา บัวงาม อายุ 44 ปี ชาวกรุงเทพมหานคร ฉายาโจรลุงพุง ผู้ต้องหาคนสำคัญที่มีหมายจับติดตัว 8 หมายจับในคดีฉ้อโกง ซึ่งตำรวจกองปราบติดตามไปจับกุมได้ที่ห้องพักอัมพรเพลส เลขที่ 145 หมู่10 ต.ธงชัยเหนือ อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นพื้นที่ก่อเหตุครั้งล่าสุดในปีนี้
จากการตรวจสอบประวัติพบว่าเคยตระเวนก่อเหตุหลอกเงินเหยื่อมาแล้วในหลายจังหวัดเกือบทุกภาคของประเทศเช่น อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี จ.กระบี่ จ.นครศรีธรรมราช จ.ชลบุรี จ.นครราชศรีมา และในพื้นที่กรุงเทพมหานครอีกหลาย ซึ่งมีผู้เสียหายทั้งที่เข้าแจ้งความและไม่ได้แจ้งความ
จากการสอบสวน นายเศรษฐา ก็ยอมรับผิดแต่โดยดีและบอกว่ามีอาชีพรับจ้างทำกระจกและงานอลูมีเนียม และก่อเหตุในลักษณะนี้มานับไม่ถ้วนทำมาหลายปีช่วงที่เงินขาดมือ และพร้อมที่จะชดใช้ค่าเสียหายให้กับผู้เสียหายทุกคนและหลังจากนี้จะยอมปรับตัวเป็นคนดีและช่วยงานเจ้าหน้าที่พร้อมกับเตือนให้ประชาชนระวังผู้ที่มีพฤติกรรมลักษณะเดียวกับตน
สำหรับหนึ่งในผู้เสียหายที่ถูก นายเศรษฐา หลอกเงินคือ นางสาวกนกวรรณ เพชรณรงค์ อายุ 25 ปี ซึ่งเป็นพนักงานในร้านต้นอ้อโมบาย ภายในห้างบิ๊กซีเอ๊กตร้าหาดใหญ่ บอกว่า เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2559 ถูกนายเศรษฐา ทำท่าทีเข้ามาเก็บค่าประกันค่าเคลม เป็นเงิน 21,300 และ ทำทีโทรศัพท์ว่าคุยกับเจ้าของร้านเพื่อให้เชื่อใจ แต่ในขณะนั้นเงินไม่พอมีเงินสดอยู่เพียง 7,300 บาท และนายเศรษฐา ก็บอกว่า เอาเท่าที่มีมาก่อนจึงให้ไป แต่เมื่อโทรถามเจ้าของร้านกลับไม่รู้เรื่องจึงรู้ว่าถูกหลอกและได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.หาดใหญ่ และขณะที่ นางสาวกนกวรรณ มาเห็นหน้านายเศรษฐา ถึงกับเก็บอารมณ์ไม่อยู่ชี้หน้าด่าและตบหน้าไป 1 ครั้งเพราะเธอต้องนำเงินเดือนมาชดใช้ให้กับทางร้านซ้ำร้ายยังมีบางคนเข้าใจผิดผ่านเฟสบุ๊คว่าเธอร่วมมือกับผู้ต้องหาหลอกเอาเงินทางร้านไปซึ่งเสียความรู้สึกอย่างมาก