การบินไทย แถลงผลสอบเที่ยวบิน TG971 ล่าช้า ผู้โดยสารต้องสละที่นั่งเฟิร์สคลาส “นักบิน-นายสถานีซูริก” บกพร่องด้านจริยธรรม ไม่คำนึงประโยชน์สูงสุดของผู้โดยสารอันดับแรก เตรียมลงโทษวินัยและเยียวยาผู้โดยสารตามมาตรฐานสากล
จากกรณีผู้โดยสารร้องเรียนถึงความล่าช้าของเที่ยวบิน ทีจี 971 เส้นทางนครซูริก ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ บินมายังท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อวันที่ 11 ต.ค.2561 ที่ผ่านมา โดยระบุว่าเจ้าหน้าที่ภาคพื้นดิน เชิญผู้โดยสารให้เปลี่ยนที่นั่งเฟิร์สต์คลาส เนื่องจากต้องการที่นั่งให้คณะนักบิน จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางในสังคม ส่งผลกระทบต่อภาพพจน์ของการบินไทยอย่างมาก ซึ่งการบินไทยได้ตั้งคณะกรรมสอบสวนข้อเท็จจริง เมื่อวันที่ 18 ต.ค. 2561
ล่าสุดเมื่อวันที่ 29 ต.ค. เฟซบุ๊ค Thai Airways ได้โพสต์ข้อความ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) แถลงผลสอบสวนข้อเท็จจริงและแนวทางการแก้ไขกรณีเที่ยวบินที่ TG971 ล่าช้า
ผลสอบระบุเป็นปัญหาของกระบวนการทำงานและความบกพร่องของทั้งนักบินและนายสถานีซูริก ที่ไม่คำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของผู้โดยสารและองค์กรเป็นอันดับแรก ซึ่งขัดกับจริยธรรมในหลักการธรรมาภิบาลที่ดีของบริษัทฯ ทั้งนี้ บทลงโทษจะเป็นไปตามระเบียบวินัยขององค์กร ส่วนการเยียวยาผู้โดยสารจะเป็นไปตามมาตรฐานสากล พร้อมยืนยันว่าทั้งหมดเป็นสิ่งที่ทั้งองค์กรต้องรับผิดชอบร่วมกัน พร้อมเดินหน้าแก้ไขฟื้นฟูความเชื่อมั่นทั้งภายในและภายนอกองค์กร
นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า หลังจากคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงได้เรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องจากทุกฝ่ายในเหตุการณ์เที่ยวบินที่ TG971 เส้นทาง ซูริก-กรุงเทพฯ ล่าช้า มาให้ถ้อยคำแล้วนั้น คณะกรรมการสอบสวนฯ ได้สรุปว่า นักบินและผู้จัดการการบริการสนามบินซูริกหรือนายสถานีซูริกได้ปฏิบัติตามขั้นตอนการปฏิบัติงานและระเบียบที่เกี่ยวข้อง แต่ขาดการประสานงานที่ดีระหว่างกันเพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องที่นั่งของ Passive Crew (นักบินที่โดยสารมากับเที่ยวบินนั้น เพื่อไปปฏิบัติหน้าที่ในเที่ยวบินอื่นหลังจากนี้ หรือปฏิบัติหน้าที่ในเที่ยวบินก่อนหน้านี้) จึงส่งผลให้เกิดความล่าช้าของเที่ยวบินและส่งผลกระทบต่อผู้โดยสาร รวมทั้งทำให้เกิดความเสียหายแก่ภาพลักษณ์ขององค์กร นอกจากนี้ ผลการสอบสวนยังระบุอีกว่า ผู้ปฏิบัติงานทั้งสองคนไม่ได้คำนึงถึงการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ของบริษัทฯ ที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้โดยสารเป็นลำดับแรก
จึงสรุปได้ว่า ผู้ปฏิบัติงานทั้งสองคนมีข้อบกพร่องด้านจริยธรรมตามคู่มือการกำกับดูแลกิจการที่ดีของบริษัทฯ ที่กำหนดให้พนักงานยึดมั่นและปฏิบัติหน้าที่เพื่อประโยชน์สูงสุดของบริษัทฯ ความบกพร่องดังกล่าวส่งผลกระทบต่อการบริการผู้โดยสารและสร้างความเสียหายให้แก่บริษัทฯ ดังนั้น บริษัทฯ จะดำเนินการทางวินัยและพิจารณาบทลงโทษกับผู้ปฏิบัติงานทั้งสองคนตามระเบียบของบริษัทฯ ต่อไป
นอกจากนี้ บริษัทฯ จะดำเนินการเยียวยาผู้โดยสารในเที่ยวบินดังกล่าวตามมาตรฐานสากล ซึ่ง ณ ปัจจุบันได้เริ่มดำเนินการไปบ้างแล้ว
“ผมในฐานะผู้บริหารสูงสุดของการบินไทยและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ขอน้อมรับความผิดพลาดและขออภัยในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผมขอให้ความมั่นใจว่า บริษัทฯ คำนึงถึงการรักษามาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดและการให้บริการลูกค้าควบคู่กันไป ซึ่งบริษัทฯ จะดำเนินการแก้ไขและปรับปรุงกระบวนการทำงานให้มีการประสานงานที่เป็นหนึ่งเดียวโดยใช้ลูกค้าเป็นศูนย์กลาง เพื่อไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีกในอนาคต และเพื่อให้การบินไทยกลับมาทะยานสู่ฟ้าสมดั่งที่ทุกคนตั้งใจอีกครั้งหนึ่ง” นายสุเมธฯ กล่าว