ที่อำเภอสวรรคโลก จ.สุโขทัย เขาบอกว่ามีร้านขนมร้านหนึ่งร้านนี้เด็ดดวงมากกับ “ขนมอีตุ่ย” ขนมนี้…ลูกค้าซื้อไปแล้ว โอ๊ย!!! อร่อยจนอยากจะกลับมากินอีก แถมการันตีด้วยการขายที่มีมานานกว่า 20 ปีแล้ว ไหน ๆ ก็ไหน ๆ ไปดูเจ้าของสูตรกันสักหน่อยว่าหน้าตาเป็นยังไง
“บางวันก็ปั้นไม่ทัน…” นี่เป็นประโยคที่ นางประจิม นิ่มอนัน หรือ “ป้าจิม” พูดกับผู้สื่อข่าวระหว่างปั้นขนมอีตุ่ยและขนมไข่หงษ์ ภายในร้านย่านหมู่บ้านเอื้ออาทร หมู่ 1 ตำบลในเมือง อำเภอสวรรคโลก จังหวัดสุโขทัย ซึ่งทำแบบนี้มานานกว่า 20 ปีแล้ว โดยทุก ๆ วัน “ป้าจิม” ตื่นแต่เช้าเพื่อมาทอดขนมอีตุ่ยและขนมไข่หงษ์เอาไว้ก่อน พอสาย ๆ ลูกค้าทั้งในพื้นที่และนักท่องเที่ยวก็มาซื้อจนหมดเกลี้ยง
“ป้าจิม” ก็บอกกับผู้สื่อข่าว ว่า ขนมอีตุ่ยและขนมไข่หงษ์ ที่ร้านของตนเองจะแตกต่างจากที่อื่น โดยเฉพาะขนมอีตุ่ยที่ต้องน้ำมันและเผือกมากวนกับกะทิและน้ำตาลทรายเอามาปั้นเพื่อทำเป็นไส้ จากนั้นเอามาห่อด้วยแป้งข้าวเหนียวปั้นเป็นลูก ๆ ส่วนมันกวนจะโรยด้วยงาขาว ส่วนงาดำสำหรับใส่เผือกกวนและนำลงไปทอดในน้ำมันที่ร้อนจัดแต่ไฟปานกลาง
เมื่อขนมอีตุ่ยลอยตุ๊บป่อง…ตุ๊บป่อง ก็ตักขึ้นมาพัก จากนั้นจะลดไฟลงและนำขนมอีตุ่ยลงไปทอดอีกทีเพื่อไม่ให้อมน้ำมัน เช่นเดียวกับขนมไข่หงษ์ เอาแป้งข้าวเหนียวผสมกับเนื้อมัน น้ำตาลทราย และเกลือ ห่อด้วยไส้ถั่ว นำไปทอดในน้ำมันร้อน ๆ จนได้ที่ จากนั้นจะนำ น้ำตาลทรายเคี่ยวมาโรย ซึ่งความอร่อยของขนมอีตุ่ยและขนมไข่หงษ์…ใครชิมต้องติดใจ ส่วนเคล็ดลับความอร่อย ป้าจิมบอกหมดเลยนะ ว่า ต้องปั้นขนมให้เป็นลูกพอดีคำ น้ำมันที่ทอดต้องใหม่ ๆ และร้อนกำลังดี
เอ้า…ใครอยากอุดหนุนก็ไปหา “ป้าจิม” กันได้ แต่รีบไปหน่อยนะเพราะสาย ๆ ขนมก็หมดแล้ว ยิ่งช่วงนี้เป็นช่วงหน้าหนาวก็ขายดีเป็นพิเศษเลย ส่วนราคาขายจำหน่ายถุงละ 20 บาท แต่สำหรับขนมอีตุ่ยและขนมไข่หงษ์ 4 ลูก 10 บาท ย้ำ! 4 ลูก 10 บาท