กรณีที่ นายสมพูล ภูมองชัย หรือ “ลุงก้อย” ชาวบ้านไชยวาร อาสาสมัครจิตอาสา อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ อายุ 59 ปี พลัดหลงกับเพื่อนบ้านระหว่างเข้าป่าภูพานเพื่อไปเก็บเห็ดในพื้นที่ ต.สร้างค้อ อ.ภูพาน จ.สกลนคร เมื่อวันที่ 11 ส.ค.61 ที่ผ่านมา ซึ่งก่อนหน้านี้ทาง จ.สกลนคร และ จ.กาฬสินธุ์ ส่งเจ้าหน้าที่และเฮลิคอปเตอร์ ปูพรมค้นหาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด เจ้าหน้าที่ขยายวงค้นหาในรัศมี 70 ตารางกิโลเมตร และเน้นค้นหาตามถ้ำและหุบเขาสูงชัน
บ่ายวันนี้ (16 สค.61) เจ้าหน้าที่หลายฝ่ายเกือบ 500 คน เดินเท้าร่วมกันค้นหา นายสมพูล ภูมองชัย หรือ “ลุงก้อย” ทีพลัดหลงกับเพื่อนบ้านบนเทือกเขาภูพาน เมื่อวันที่ 11 ส.ค.61 ระหว่างไปหาของป่า ซึ่งวันนี้เจ้าหน้าที่ได้แบ่งออกเป็น 10 ชุด ชุดละ 20-30 คน ประกอบด้วยทหาร ตำรวจ ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 23 อส.อปพร. เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติภูพาน อาสาสมัครจิตอาสา และชาวบ้านที่ชำนาญพื้นที่ ซึ่งมุ่งประเด็นในการค้นหาตามถ้ำและหุบเขาชัน ครอบคลุมพื้นที่ 70 ตารางกิโลเมตร
ล่าสุด เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน จ.สกลนคร ประกาศเป็นหนังสือยืนยันให้ นายสมพูล เป็นผู้พลัดหลง ฉบับที่ 21/2561 โดยระบุว่า ได้รับแจ้งรูปพรรณคนหายพลัดหลงจาก พนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ เพื่อออกประกาศสืบหาคนหายพลัดหลง ป่าบนเทือกเขาภูพาน ต.สร้างค้อ อ.ภูพาน จ.สกลนคร ซึ่งได้รับแจ้งเมื่อวันที่ 12 ส.ค.61 ที่ สภ.สร้างค้อ อ.ภูพาน จ.สกลนคร หากผู้ใดพบเห็นหรือรับตัวไว้ หรือทราบแหล่ง/สถานที่ของคนหายพลัดหลงข้างต้นให้รีบแจ้ง สภ.สร้างค้อ ทันทีโดย นายวิทยา จันทร์ฉลอง ผู้ว่าราชการ จ.สกลนคร บอกว่า หลังจากค้นหามา 2 วัน พบว่าบนเขามีฝนตกตลอดเวลา เนื่องจากเป็นป่าทึบมาก บางส่วนก็เป็นป่าโปร่ง ซึ่งการส่งเจ้าหน้าที่เดินเข้าไปอาจไม่ทั่วถึง ซึ่งเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครทั้งหมดยังมีกำลังใจในการร่วมกันค้นหา ซึ่งวันนี้ได้ให้เจ้าหน้าที่อีกชุด เข้าตรวจสอบจุดที่พบเบสโทรศัพท์ครั้งสุดท้ายของลุงก้อย ที่ต้นกระบกใหญ่ ซึ่งเจ้าหน้าที่พบมีร่องรอยในการหักกิ่งไม้ใบไม้มาปูนั่ง และบริเวณใกล้เคียงมีถ้ำขนาดเล็กอยู่หลายแห่ง ซึ่งจะต้องเข้าสำรวจ คาดว่าคงมีข่าวดีภายในวันนี้
ด้าน นางสง่า ภูนาสุข ภรรยาของ “ลุงก้อย” มั่นใจว่าสามียังมีชีวิตอยู่ เพราะเป็นคนแข็งแรงไม่มีโรคประจำตัว ที่ยังไม่พบตัวอาจพลัดหลงอยู่ตามหุบเหวที่ไหนสักแห่ง และมั่นใจศักยภาพการทำงานของเจ้าหน้าที่ที่จะต้องช่วยเหลือสามีของตนออกจากป่าเทือกเขาภูพาน ซึ่งอาจใช้เวลาประมาณประมาณ 2-3 วัน และเมื่อครบ 7 วันคงจะต้องขอบวงสรวงเจ้าป่าเจ้าเขาบนเทือกเขานี้ให้อย่าบังตาเจ้าหน้าที่และพาสามีตนออกจากป่าแห่งนี้ต่อไป