“ขุนคลัง” ไม่ขัด โรงเรียนเอกชน เข้าตลาดหุ้น ระบุเป็นวิธีระดมทุนรูปแบบหนึ่ง ส่วนเรื่องไม่ต้องเสียภาษี ถือเป็นการสนับสนุนเรื่องการศึกษา เจ้าของโรงเรียนจะรวย-จนก็ต้องส่งเสริม
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงกรณีโรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ว่า การเก็บภาษีกับการระดมทุนคนละเรื่องกัน เพราะฉะนั้นไม่ว่าสถานศึกษาจะอยู่ในสถานะใด ก็สมควรต้องส่งเสริมเรื่องภาษี เป็นเรื่องปกติ ไม่ใช่ว่าคุณอยู่สถานะหนึ่งต้องส่งเสริม และอีกสถานะหนึ่งไม่ส่งเสริม ทำไม่ได้ ส่วนการระดมทุนมีหลายช่องทาง ซึ่งส่วนใหญ่สถานศึกษาลงทุนเอง ไม่มีทุนก็กู้มาบ้าง ปกติถือว่ากู้ยาก เพราะสถาบันการเงินค่อนข้างเข้มงวดกับการปล่อยกู้ให้กับโรงเรียน เมื่อเกิดปัญหาเรียกคืนได้ยาก นอกจากนี้ มีกรณีที่บริษัทต่าง ๆ ร่วมกัน เพื่อสร้างโรงเรียนของกลุ่มบริษัทเอง เพื่อสนับสนุนธุรกิจของเขา อันนั้นเป็นเรื่องของซีเอสอาร์ที่เขาทำขึ้นมา
นายอภิศักดิ์ กล่าวต่อไปอีกว่า ขณะที่การระดมทุนผ่านตลาดหลักทรัพย์ เป็นการระดมทุนอย่างหนึ่ง ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)จะตอบได้ดีที่สุด ว่า อนุญาตให้เป็นมหาชน มีความเห็นอย่างไร อาจจะมีแผนงานที่ดี คงต้องไปดูแผนงานคืออะไร เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะชนอย่างไร แต่จะตัดสินว่าเป็นโรงเรียน และไประดมทุนจากตลาดหลักทรัพย์อย่างเดียวคงไม่ใช่
“ส่วนจะมีข้อห้ามเรื่องการนำสถานศึกษาเข้ามาระดมทุนในตลาดหรือไม่นั้น ต้องถามถึงกฎเกณฑ์จาก ก.ล.ต. การระดมอย่างนี้ทำให้ส่วนรวมเสียหายหรือไม่ หากไม่เสียหายก็ไม่เป็นไร ส่วนกรณีที่ รมว.ศึกษาธิการ มองว่าไม่เหมาะสมนั้น มองว่าทำให้ใครเสียหายหรือไม่” รมว.การคลัง กล่าว
รมว.การคลัง กล่าวว่า กรณีที่หลายฝ่ายมองว่า หากด้านการศึกษาไม่เสียภาษี จะเกิดความลักลั่นกับบริษัทจดทะเบียนนั้น ยืนยันว่า การส่งเสริมการศึกษาไม่ว่าอยู่สถานะอะไร ก็ควรส่งเสริมทางการศึกษา เจ้าของจะจนหรือรวยก็สนับสนุนได้เหมือนกัน ซึ่งต้องพิจารณาสิ่งที่ทำว่าเหมาะสมกับประเทศไทยและการศึกษาก็เป็นเรื่องสำคัญอันดับแรกสำหรับประเทศไทย