“ครูจอมทรัพย์” ลุ้นคำพิพากษาคดีดังประวัติศาสตร์ อดีตครูที่ทวงความยุติธรรม หลังตกเป็นผู้ต้องขังติดคุก 1 ปี 6 เดือน ในคดีขับรถชนคนตายที่อำเภอเรณูนคร จังหวัดนครพนม ขณะที่ ตำรวจคุมเข้ม เตรียมรับมวลชน ทำให้บรรยากาศเริ่มคึกคักตั้งแต่ช่วงเช้า
บรรยากาศที่ศาลจังหวัดนครพนม เริ่มคึกคักตั้งแต่ช่วงเช้า ได้มีกองทัพสื่อมวลชน จากแขนงต่างๆ ให้ความสนใจ มารอรายงานข่าวผลการตัดสินของศาล นอกจากนี้ยังมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดเฉพาะกิจ ตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม ได้เข้ามาดูแลอำนวยความสะดวก และความปลอดภัย เนื่องจากคดีนี้คาดว่า จะมีเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง รวมถึงประชาชน ที่ให้ความสนใจเดินทางมาร่วมลุ้นฟังคำพิพากษาเป็นจำนวนมาก เพราะถือว่าเป็นการชี้ชะตาของ ครูจอมทรัพย์ หลังออกมาร้องทุกข์ขอความเป็นธรรม ว่าตกเป็นแพะ ทำให้กลายเป็นคดีที่สังคมให้ความสนใจ และในวันนี้ คำพิพากษา จะมี 2 แนวทาง คือ แนวทางที่1 หากผลการพิจารณาพิพากษาของศาลฎีกา ครั้งนี้ คือ ยืนตามคำพิพากษาชั้นต้น และศาลฎีกาเดิม หรือยกฟ้อง หมายถึงการพิจารณาตัดสินคดีที่ผ่านมา ถือว่าถูกต้องตามกระบวนการยุติธรรม และแสดงว่า ครูจอมทรัพย์ ไม่ได้เป็นแพะตามคำร้อง ส่วนแนวทางที่2 หากผลการพิจารณาตัดสิน ออกมาว่า กลับคำพิพากษาศาลฎีกา หมายถึง ครูจอมทรัพย์ ไม่ได้กระทำผิด และตกเป็นแพะจริง ตามคำร้องทุกข์ และจะต้องรอฟังคำพิพากษาใหม่ เกี่ยวกับการดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม ที่จะต้องกลับไปเริ่มสู่กระบวนการสอบสวนหาผู้กระทำผิดในคดีดังกล่าว ซึ่งต้องรอกระบวนการตามกฎหมายต่อไป
สำหรับคดีครูจอมทรัพย์ เกิดขึ้นเมื่อ 11 มีนาคม 2548 ในพื้นที่ สภ.นาโดน อ.เรณูนคร จ.นครพนม หลังติดคุก 1 ปี 6 เดือน จากคำพิพากษาตัดสินของศาลฎีกา ให้จำคุก 3 ปี 2 เดือน เมื่อปี 2556 แต่ได้รับการอภัยโทษออกมา เมื่อปี2558 จนกระทั่งศาลอุทธรณ์ภาค4 มีคำสั่งให้ศาลชั้นต้น คือ ศาลจังหวัดนครพนม พิจารณารื้อคดี โดยมีกำหนดนัดสืบพยานเมื่อวันที่ 8-10 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา
ภายหลัง นางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร อายุ 55 ปี ได้ออกมาร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือจากกระทรวงยุติธรรม ว่าตกเป็นแพะ ยืนยันว่า ตนไม่ได้เป็นคนขับรถยนต์ที่ชนในที่เกิดเหตุ หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยืนยันหลักฐานในการดำเนินคดี ว่า รถกระบะโตโยต้า ทะเบียน บค 56 สกลนคร ซึ่งเป็นของครูจอมทรัพย์ ได้เกิดอุบัติเหตุชนคนตาย แต่ภายหลังได้มีการรวบรวมหลักฐานร้องทุกข์ มาเบิกความต่อศาลจังหวัดนครพนม ว่า รถคันที่ชนคือ รถกระบะ อีซูซุ ทะเบียน บค 56 มุกดาหาร พร้อมระบุว่า มี นายสับ วาปี เป็นเจ้าของรถ และเป็นคนขับชน พร้อมได้มีการเบิกความ นำพยานหลักฐานทั้งหมด มายืนยันในการพิจารณารื้อคดีของศาลจังหวัดนครพนม ซึ่งครูจอมทรัพย์ ยืนยันว่าตกเป็นแพะ และจากความผิดพลาดในการสอบสวนดำเนินคดีของตำรวจ
นอกจากนี้ในการพิจารณาไต่สวนของศาล ทางด้าน ครูจอมทรัพย์ ยังได้นำนางทัศนีย์ หาญพยัคฆ์ อายุ 61 ปี และ นางทองเรศ วงศ์ศรีชา อายุ 51 ปี พยานปากสำคัญ มาเบิกความต่อศาล เพื่อยืนยันว่าไม่ได้กระทำผิด ซึ่งเป็นพยานที่เคยยืนยันว่า เห็นคนขับรถยนต์ก่อเหตุเป็นชาย ลงมาดูศพผู้ตาย ก่อนขับรถยนต์หนีไป แต่สามารถจำเลขทะเบียนรถได้เพียง 56 ไม่สามารถจำยี่ห้อ รวมถึงหมวดอักษร และจังหวัดของป้ายทะเบียนได้ อย่างไรก็ตาม เกี่ยวกับคดีนี้จะต้องรอฟังคำพิพากษาของศาล ว่า ครูจอมทรัพย์ จะตกเป็นแพะ หรือเป็นแกะในคดีนี้