กรณีปัญหาระเบียบการจ้างพนักงานหรือลูกจ้างที่มีกระแสว่าจะมีการเลิกจ้างจนเป็นกระแสคัดค้านของกลุ่มชมรมแพทย์ชนบท แม้ว่าที่ผ่านมากรมบัญชีกลางได้ชี้แจงแล้วแต่ยังไม่ชัดเจน ทำให้กลุ่มชมรมแพทย์ชนบทนัดหมายที่จะไปยื่นหนังสือที่กระทรวงการคลังในวันพรุ่งนี้ แต่วันนี้กระทรวงการคลังชิงเรียกตัวประธานชมรมแพทย์ชนบท เข้าหารือร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจ ผลล่าสุด ชมรมแพทย์ชนบทยอมรับข้อเสนอและยุติการชุมนุมในวันพรุ่งนี้
นายประสงค์ พูนธเนศ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยหลังจากการหารือกับกระทรวงสาธารณสุข เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (31 พ.ค.61) ว่า กระทรวงการคลังจะเลื่อนการบังคับใช้ประกาศของกระทรวงการคลังว่าด้วยการจ้างพนักงานหรือลูกจ้าง ออกไปก่อนจาก 18 พฤษภาคม 2561 และนัดหารือกับทุกส่วนราชการเพิ่มบ่ายวันนี้ (31 พ.ค.) เพื่อรับฟังความเห็นจากทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง อภิปราย และแสดงความคิดเห็นเป็นรายข้อว่ามีความเห็นอย่างไร เพื่อปรับปรุงแก้ไขให้เหมาะสมและเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย ก่อนจะมีการร่างประกาศใหม่เพื่อบังคับใช้ต่อไป หลังจากกลุ่มแพทย์ชนบทยื่นข้อเรียกร้องให้ยกเลิก 2 ข้อ คือ ยกเลิกระเบียบกระทรวงคลัง เพราะเห็นว่ายังไม่ชัดเจนตีความยาก
“แพทย์ชนบท” พอใจข้อเสนอ-ยกเลิกยื่นหนังสือพรุ่งนี้
ขณะที่ นพ.เกรียงศักดิ์ วัชระนุกูลเกียรติ ประธานชมรมแพทย์ชนบท เปิดเผยว่า กลุ่มแพทย์ชนบทพอใจ แม้กลุ่มแพทย์ชนบทลางานและจะเดินทางเข้ากรุงเทพฯ จำนวนมากในวันนี้ จึงพร้อมยกเลิกชุมนุม แต่ต้องติดตามความคืบหน้าอย่างใกล้ชิดเกี่ยวกับแนวทางแก้ปัญหาดังกล่าว และเสนอว่าการออกระเบียบของกรมบัญชีกลางควรพิจารณาการทำงานของแต่ละส่วนราชการที่ไม่เหมือนกัน ซึ่งยอมรับว่าแพทย์ทั้งประเทศ 4 แสนคน มีแพทย์ที่เป็นราชการประจำเพียง 2 หมื่นคน และลูกจ้างของโรงพยาบาลทั่วประเทศมีสัดส่วนถึงร้อยละ 50 ของทั้งหมด ทั้งแพทย์ พยาบาล เภสัช ลูกจ้างชั่วคราวได้รับเงินเดือนสูง แต่บางคนต้องการบรรจุเป็นราชการได้รับเงินเดือนต่ำ และหากกรมบัญชีกลางต้องการให้ชี้แจงรายละเอียดการใช้เงิน เพื่อส่งให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ตรวจสอบพร้อมชี้แจงได้ทุกขั้นตอนในการใช้เงินบำรุง
รพ.สมเด็จพระยุพราชท่าบ่อ ร่วมค้านระเบียบจ้างงาน
ทั้งนี้ ก่อนที่จะมีการหารือของทางกระทรวงการคลังและกระทรวงสาธารณสุข และทางชมรมแพทย์ชนบทพอใจข้อเสนอและยุติการชุมนุมในพรุ่งนี้ บรรยากาศในต่างจังหวัดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา โดยเฉพาะโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชท่าบ่อ จ.หนองคาย ลูกจ้างของโรงพยาบาลต่าง ๆ ใน จ.หนองคาย เดินทางด้วยรถตู้ไปยังกรุงเทพ เพื่อไปสมทบกับลูกจ้างโรงพยาบาลทั่วประเทศเพื่อจะไปยื่นหนังสือคัดค้านระเบียบดังกล่าว
นพ.วัฒนา พารีศรี ผอ.โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ท่าบ่อ เปิดเผยว่า ระเบียบใหม่ของกระทรวงการคลังมีผลกระทบกับขวัญกำลังใจของลูกจ้าง เพราะทำงานเต็มที่แต่ได้เงินเดือนเท่าเดิม ต้องมองย้อนกลับไปว่าเหตุที่ต้องจ้างลูกจ้าง เพราะงานบริการประชาชนในโรงพยาบาลนับวันเพิ่มมากขึ้น ต้องใช้บุคลากรจำนวนมากจึงต้องใช้เงินนอกงบประมาณมาจัดสรรเป็นเงินค่าจ้างสำหรับลูกจ้างระเบียบนี้ประกาศใช้ในอนาคตหากลูกจ้างต้องลาออก หรือมีเหตุอะไรก็ตาม ตำแหน่งนั้นก็ต้องยุบไป ทำให้กระทบกับจำนวนลูกจ้างที่ให้บริการผู้ป่วย โรงพยาบาลก็ต้องลดภารกิจลงเหมือนในอดีตที่ให้บริการประชาชนไม่ครอบคลุมและเกิดความไม่พึงพอใจขึ้น แม้ทางปลัดกระทรวงสาธารณสุขจะออกมาบอกว่า ในวันที่ 1 ต.ค.61 ปีงบประมาณใหม่จะยังคงจ้างลูกจ้างได้ แต่ก็เกิดคำถามตามมาว่า จะจ้างได้แบบไหนเพราะไม่มีความชัดเจน
รพ.ประทาย ร่วมคัดค้านออกระเบียบจ้างงาน
ส่วนที่ รพ.ประทาย อ.ประทาย จ.นครราชสีมา ซึ่งมีพนักงานลูกจ้างได้รับผลกระทบกว่า 150 คน ได้ติดป้ายผ้าหน้าโรงพยาบาลระบุข้อความว่า “โรงพยาบาลประทาย ขอไว้อาลัยกระทรวงการคลังที่ออกระเบียบ ห้ามโรงพยาบาลจ้างลูกจ้างชั่วคราวและห้ามขึ้นเงินเดือนลูกจ้าง” นอกจากนี้ พนักงานลูกจ้างของโรงพยาบาลบางส่วนสวมเสื้อสีดำเพื่อแสดงการคัดค้านกับระเบียบการดังกล่าว
นางจุรีรัตน์ ทองจันทร์ พนักงานช่วยเหลือคนไข้ รพ.ประทาย เปิดเผยว่า ผลกระทบที่เกิดขึ้น ทำให้ลูกจ้างโรงพยาบาลประทาย แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนหนึ่งไม่ค่อยกระตือรือร้นกับระเบียบการดังกล่าวมากนัก เพราะมั่นใจว่าจะยังมีการจ้างงานอยู่ซึ่งส่วนใหญ่เป็นลูกจ้างที่เพิ่งมีการจ้างเข้ามาใหม่ แต่บางส่วนที่ทำงานมาหลายสิบปีกังวลกับระเบียบการดังกล่าวเป็นอย่างมาก เพราะจะเกิดผลกระทบต่อค่าจ้างที่จะมีการปรับลดลง ส่วนการนัดรวมตัวกันที่หน้ากระทรวงการคลังในวันที่ 1 มิถุนายนนี้นั้น เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลประทายคงไม่ได้เข้าไปร่วมชุมนุมด้วย เนื่องจากติดภารกิจในเรื่องของงานซึ่งละทิ้งไม่ได้ และพนักงานบางส่วนก็จะไปเรียกร้องที่สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา เกี่ยวกับเรื่องเงินเหมาจ่ายหรือ ฉ.11 ซึ่งต้องจ่ายให้กับลูกจ้างที่มีวุฒิต่ำกว่าปริญญาตรี แต่ปัจจุบันเงินดังกล่าวยังไม่มีการเบิกจ่ายให้กับลูกจ้าง