คสช.เอาจริงจัดระเบียบขึ้น-ลงเรือ พร้อมสั่งผู้ประกอบการทัวร์ห้ามทิ้งนักท่องเที่ยวที่ไม่ไปเกาะไว้ที่ท่าเทียบเรือเด็ดขาด ชี้บริษัททัวร์ต้องหาทางออกในการดูและนักท่องเที่ยวไม่ใช่ผลักภาระมาให้รัฐ ย้ำให้ดำเนินการทันทีเริ่ม 24 ก.พ.นี้
ที่ศาลาว่าการเมืองพัทยา พ.อ.ภพอนันตน์ เหลืองภานุวัฒน์ รอง ผบ.มทบ.14 เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการและคณะทำงานจัดระเบียบท่าเทียบเรือท่องเที่ยวพัทยาใต้ ด้านการรักษาความปลอดภัยและการจราจรทางบกและทางน้ำ พร้อมด้วยพล.ต.ต.อนันต์ เจริญชาศรี นายกเมืองพัทยา คณะกรรมการและคณะทำงาน ผู้ประกอบการเรือนำเที่ยวและเรือจร เข้าร่วมประชุมหารือแนวทางการแก้ไขร่วมในการจัดระเบียบการย้ายจุดขึ้นลงเรือจากบริเวณชายหาดมาเข้าระบบท่าเทียบเรือ หลังจากที่ดำเนินการจัดระเบียบย้ายจุดขึ้นลงเรือจากบริเวณชายหาด มาเข้าระบบท่าเทียบเรือแหลมบาลีฮาย เมื่อวันที่ 16 ก.พ. ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันที่บังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง
จากการตรวจสอบพบว่า มีผู้ประกอบการบางกลุ่มที่ต้องการดิสเครดิตการดำเนินการของเจ้าหน้าที่รัฐในการจัดระเบียบครั้งนี้ว่ามีความล้มเหลว ด้วยการนำภาพนักท่องเที่ยวไปนั่งและนอนโดยมีการแขวนเสื้อผ้า บริเวณใต้ร่มและอาคารที่พักภายในท่าเทียบเรือ ทำให้ภาพลักษณ์เมืองท่องเที่ยวไม่สวยงาม ตลอดทั้งภาพนักท่องเที่ยวที่ตกบันได สภาพการแออัดของนักท่องเที่ยวมาโพสต์และแชร์ไปในโซเซียลมีเดีย เพื่อให้สังคมมองภาพรวมของการจัดระเบียบดังกล่าวไม่ตอบสนองต่อความเป็นจริง หวังที่จะกลับไปสู้การกลับคืนสภาพเดิมในการขึ้นลงเรือบริเวณชายหาดนั้น
ทางด้าน พ.อ.ภพอนันต์ กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวผู้ประกอบการน่าจะรู้ดีกว่าเจ้าหน้าที่เพราะทำมาหากินที่ สะพานท่าเทียบเรือสร้างมานานตัวสะพานจึงความคับแคบ ไม่ตอบสนองต่อความต้องการของผู้ประกอบการอย่างที่เป็นนอยู่ อีกทั้งทางหน่วยงานภาครัฐก็ไม่ได้นิ่งนอนใจในสภาพปัญหาที่เป็นอยู่เร่งหาแนวทางแก้ไขเพื่อผลการจัดระเบียบเดินหน้าต่อไป การที่จะกลับไปสู่ภาพเดิมๆในการขึ้นลงเรือบริเวณชายหาดนั้น เพื่อให้ถูกใจผู้ประกอบการนั้นคงเป็นไปไม่ได้ ตัวเองจะไม่ยอมให้การนำเอาเรื่องส่วนตัวของผู้ประกอบการเพียงไม่กี่รายมาเป็นข้อแม้เด็ดขาด นับแต่นี้พบผู้ประกอบการหรือบุคคลใดนำภาพที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อเมืองท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่จะดำเนินการขัดเด็ดขาด และนำกฏหมายของ คสช.เข้ามาบังคับใช้อย่างเข็มงวด
ขณะที่แนวทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นหลังการจัดระเบียบนั้น ในเรื่องของการทิ้งลูกทัวร์ที่ไม่สามารถขึ้นลงเรือได้นั้น เช่น คนสูงอายุ ผู้ป่วย และนักท่องเที่ยวบางคนที่ไม่พร้อมจะเดินทางไปเกาะ ที่ทิ้งแขกไว้ตรงที่ลงเรือ ให้บริษัททัวร์ประสานกับบริษัททัวร์ต้นทางในการคัดสรรลูกทัวร์ที่จะสามารถเดินทางขึ้นลงเรือได้ ส่วนนักท่องเที่ยวรายใดไม่สามารถขึ้นลงเรือได้ให้หาโปรแกรมเสริมระหว่างรอ เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาการทิ้งนักท่องเที่ยวไว้ตามข้างทาง หากบริษัทไหนทำไม่ได้และไม่ทำตามจะดำเนินการตามกฎหมายทันที โดยจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 24 ก.พ.60 เป็นต้นไป
ส่วนเรื่องของการขึ้นลงเรือของบริษัทนำเที่ยวนั้น จะให้เจ้าหน้าที่ที่เกียวข้องประสานงานเรื่องของการจัดคิวขึ้นลงเรือ เพื่อเป็นการลดความแออัด อีกทั้งให้บริษัทเรือนำเทียวปรับเปลี่ยนบนเวลาการขึ้นลงเรือไม่ให้มากระจุกกันหมดทั้ง 45 บริษัท ในเวลาเดียวกันคือ 07.00 น.ให้กระจายเวลาไป สำหรับเรือที่ประสบปัญหาการดำเนินการตามแนวนโยบายของภาครัฐในการนำนักท่องเที่ยวมาขึ้นลงที่ท่าเทียบเรือนั้น เบื้องต้นได้ให้เจ้าท่าพิจารณาเรื่องจุดผ่อนผันต่อไป