สำหรับคดี เมจิกสกิน ยังไม่จบ ล่าสุดมีนพ. นพ.ปิยะพงษ์ โหวิไลลักษ์ หรือหมอบอนด์และน.ส.ปวีณา นามสงคราม หรือ น้ำผึ้ง “Take Me Out” แฟนสาว รีวิวโฆษณาสินค้าในเครือเมจิกสกิน เช่นกัน ทำให้ตำรวจเตรียมออกหมายเรียก ให้เข้าพบเพื่อให้ปากคำภายในวันที่ 11 พ.ค.นี้ ส่วนแพทยสภา ก็มีการตั้งอนุกรรมการสอบสวนจริยธรรม เพราะใช้วิชาชีพไปขายของหาประโยชน์ หากผลการสอบออกมาว่าผิด เบื้องต้นกำหนดโทษไว้ 4 ระดับ ว่ากล่าวตักเตือน, ภาคทัณฑ์, พักใช้ และเพิกถอน แต่หมอบอนด์ เป็นใคร และทำไมถึงเข้ามารีวิวสินค้าให้กับเมจิกสกิล
นพ.ปิยะพงษ์ โหวิไลลักษ์ อายุ 33 ปี หรือ “หมอบอนด์” เป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านความงามมาประมาณ 7 ปี และเปิดคลีนิคเกี่ยวกับความงามเป็นของตัวเอง คือ “วีเชฟคลินิกพัทยา” ที่จังหวัดชลบุรี จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยขอนแก่น
ส่วนน.ส.ปวีณา นามสงคราม หรือ น้ำผึ้ง “Take Me Out” แฟนสาว ทั้งคู่ ได้พบกันครั้งแรก ในรายการ Take Me Out Thailand เมื่อวันที่1 ตุลาคม 2559 โดยฝ่ายชายเป็นคนประกาศว่า มาออกรายการนี้เพราะหลงรักผู้หญิงชื่อ น้ำผึ้ง ก่อนที่ทั้งคู่จะเดทกันและคบหากระทั่งแต่งงาน
ส่วนที่ออกไลฟ์รีวิว สินค้าในเครือ “เมจิกสกิน” ตามคำเชิญชวน ของนายกสิทธิ์ วรชิงตัน หรือ ‘หญิงย้วย’ เมื่อช่วงเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา เข้าใจว่ามีสินค้ามีอย.ไม่รู้ว่าผลิตภัณฑ์มีปัญหา และมีการร่วมลงทุนเป็นเงินจำนวน 3 แสนบาท
ทั้งนี้หมอบอนด์ ได้รีวิวสินค้าของเมจิกสกิน นพ.สัมพันธ์ คมฤทธิ์ กรรมการแพทยสภา ระบุว่า การที่บุคลากรในวิชาชีพไปโฆษณาหรือรีวิวผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่ไม่ใช่กลุ่มผลิตภัณฑ์สุขภาพก็ไม่เป็นไร แต่กรณีนี้เหมือนเป็นการใช้วิชาชีพไปขายของ หาประโยชน์ เนื่องจากมีการใช้คำว่า นายแพทย์ ซึ่งเป็นหมอไปรับรองผลิตภัณฑ์สุขภาพหรือสินค้าอื่นๆ ที่เกี่ยวกับความงาม หรืออ้างลดน้ำหนัก หรือฟอกผิวขาว ซึ่งถือว่าผิด พ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 และข้อบังคับแพทยสภาข้อที่ 44 ระบุว่า ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมผู้ใด ถ้าต้องการแสดงตนเพื่อโฆษณาผลิตภัณฑ์สุขภาพใดๆ ต่อสาธารณชนจะต้องไม่ใช้คำว่า นายแพทย์ แพทย์หญิง หรือคำอื่นใดหรือกระทำการไม่ว่าโดยวิธีใดๆ ให้ประชาชนเห็นหรือทราบข้อความ ภาพ เครื่องหมาย หรือกระทำอย่างใดๆ ให้บุคคลทั่วไปเข้าใจว่าเป็นแพทย์ หรือผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม
เบื้องต้นกำหนดโทษไว้ 4 ระดับ คือ ว่ากล่าวตักเตือน ภาคทัณฑ์ พักใช้ และเพิกถอน ซึ่งส่วนใหญ่จะบอกว่า รู้เท่าไม่ถึงการณ์ ไม่รู้กฎหมาย ก็มักจะเป็นว่ากล่าวตักเตือน แต่หากสอบสวนแล้วพบว่ามีส่วนรู้เห็น และรู้เรื่องก็จะเป็นอีกระดับหนึ่ง แต่สำหรับกรณีหมอบอนด์จะมีการนำเรื่องเข้าที่ประชุมแพทยสภากลางพ.ค.นี้ และตั้งอนุกรรมการสอบสวนจริยธรรมขึ้นมาสอบสวน
อย่างไรก็ตามแพทยสภาจะออกประกาศแจ้งเตือนแพทย์ทั่วประเทศ ผ่านเว็บไซต์ให้ระมัดระวังในการรีวิวสินค้า และห้ามใช้วิชาชีพแพทย์รีวิวหรือเกี่ยวข้องกับสินค้าสุขภาพ เพราะจะขัดต่อข้อบังคับของแพทยสภา หรือกล่าวง่ายๆ ว่าหมอต้องไม่เอาวิชาชีพหมอไปขายของ ซึ่งวิชาชีพอื่นก็เช่นกัน ทั้งพยาบาล ทันตแพทย หรือแม้แต่เภสัชกร ก็ต้องพึงระวังทั้งสิ้น