เจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง ผ่าพิสูจน์ซากเต่าทะเลที่ถูกคลื่นเกยชายหาดเกาะสมุย คาดว่าน่าจะมาจากป่วยตายเนื่องจากพบอาการหนองในลำไส้ ส่วนแถบโลหะระบุหมายเลขที่ขาเป็นของประเทศมาเลเซีย
18 มิ.ย.60 น.ส.วัชรา ศากรวิมล นายสัตว์แพทย์ปฏิบัติการ ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จำนวนหนึ่ง เดินทางลงพื้นที่ชายกาดบ้านพังกา ต.ตลิ่งงาม อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการตายของซากเต่าทะเลที่ถูกคลื่นซัดมาเกยที่ชายหาดบ้านพังกา เมื่อ 4 วันก่อน รวมถึงตรวจสอบแถบโลหะที่ติดอยู่ที่ขาหน้าของเต่าว่าเป็นแถบโลหะจากประเทศอะไร
เบื้องต้น น.ส.วัชรา เปิดเผยว่า ซากเต่าตนุตัวนี้เป็นเพศเมีย ความยาว 1 เมตร น้ำหนักประมาณ 100 กิโลกรัม ซึ่งถือว่าเป็นเต่าตนุที่มีขนาดใหญ่และเป็นเต่าที่อยู่ในวัยเจริญพันธุ์ จากการผ่าพิสูจน์พบในลำไส้และในกระเพาะมีคราบหนองตกค้างอยู่ เชื่อว่าสาเหตุการตายของเต่าตัวนี้ น่าจะเกิดจากอาการป่วย ส่วนบริเวณกระดองและลำตัวเริ่มเน่าจึงไม่สามารถตรวจสอบได้ว่ามีบาดแผลอื่น ๆ ด้วยหรือไม่
นอกจากนี้ แถบโลหะที่พบติดอยู่ที่ขาด้านหน้าของเต่าตนุตัวนี้ เป็นแถบโลหะของศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในประเทศมาเลเซีย โดยคาดว่าเต่าตนุเพศเมียตัวนี้น่าจะเคยขึ้นมาวางไข่ที่ประเทศมาเลเซีย และศูนย์วิจัยทางทะเลของมาเลเซียได้ตรวจพบก่อนจะติดแถบโลหะ พร้อมระบุหมายเลข 1086 เพื่อติดตามเก็บประวัติของเต่าตัวนี้ โดยหลังจากผ่าพิสูจน์แล้ว เจ้าหน้าที่เก็บชิ้นเนื้อบางส่วนไปตรวจสอบที่ศูนย์วิจัยฯ อย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนทำการฝังกลบต่อไป
