กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หรือ ปภ. รายงานสรุปสถานการณ์ตอนนี้มี 10 จังหวัดทั่วไทยได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัยจากอิทธิพลของพายุ “เซินติญ” และ “เบบินคา” ส่วนตอนนี้ประชาชนยังคงต้องจับตาสถานการณ์น้ำท่วมที่ จ.เพชรบุรี อย่างใกล้ชิด หลังน้ำท้ายเขื่อนเพชรเริ่มเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนหลายจุด
สถานการณ์น้ำท่วมใน จ.เพชรบุรี เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (21 ส.ค.61) ท้องฟ้าเปิดยังไม่มีฝนตกลงมาเพิ่ม แต่ระดับน้ำในเขื่อนแก่งกระจาน น้ำยังคงไหลผ่านทางระบายน้ำ ทำให้พื้นที่ท้ายเขื่อนแก่งกระจาน ได้รับผลกระทบ มีน้ำไหลเข้าท่วมบ้านเรือนของประชาชนจำนวนหลายหลัง โดยปริมาณน้ำเขื่อนแก่งกระจานอยู่ที่ 777 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 109 เปอร์เซ็นต์ของความจุอ่าง ส่วนปริมาณน้ำระบายทุกช่องทางทั้งทางกาลักน้ำ ประตูระบายน้ำ และสปิลเวย์ อยู่ที่ 24.36 ล้านลูกบาศก์เมตร/วัน ซึ่งโครงการชลประทานเพชรบุรี คาดว่าแนวโน้มน้ำที่จะไหลลงอ่างเก็บน้ำแก่งกระจานลดน้อยลง เพราะปริมาณน้ำฝนที่ตกในพื้นที่ป่าลดน้อยลงด้วย
ส่วนเขื่อนเพชรยังบริหารจัดการตามแผนเดิม คือ เร่งระบายน้ำลงสู่ระบบคลองชลประทานสายหลัก 4 สาย รวมทั้งเร่งระบายน้ำลงคลองส่งน้ำสายต่าง ๆ รวมทั้งขอเพิ่มการระบายน้ำลงแม่น้ำเพชรบุรี ประมาณ 140-160 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบกับประชาชนที่อยู่ในจุดเสี่ยงริมแม่น้ำเพชรบุรี จึงขอให้ประชาชนติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิดต่อไป นอกจากนี้ยังพบว่าวันนี้ที่คลองสาย 1 และ 2 ที่รับน้ำมาจากเขื่อนเพชร ระดับน้ำสูงขึ้นถึงขั้นเฝ้าระวัง จนเอ่อเข้าท่วมถนนและบ้านเรือนประชาชนบางจุดแล้ว ชาวบ้านต้องนำกระสอบทรายมาวางเป็นแนวป้องกันไม่ให้น้ำไหลเข้าท่วมถนนเพื่อแก้ปัญหาเบื้องต้น ซึ่งชาวบ้านหลายคนต่างมาเฝ้าดูและตั้งคำถามว่าปริมาณน้ำว่าจะเพิ่มขึ้นอีกหรือไม่
ขณะที่เขตเทศบาลเมืองเพชรบุรี ปริมาณน้ำในแม่น้ำเพชรบุรีอยู่ที่ 5 เมตร 5 เซนติเมตร ต่ำกว่าระดับคันกั้นน้ำเพียง 5 เซนติเมตรเท่านั้น เจ้าหน้าที่ต้องเร่งดำเนินการนำกระสอบทรายมาวางเป็นแนวป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำเพชรบุรี โดยเฉพาะตามจุดเสี่ยงต่าง ๆ รวมถึงเร่งสูบน้ำออกจากท่อระบายน้ำเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำเข้าท่วมพื้นที่เศรษฐกิจ นอกจากนี้ ยังได้จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังจุดสำคัญทั้งโรงพยาบาล โรงเรียน และย่านการค้า รวมถึงพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำ อย่างใกล้ชิด ส่วนความเสียหายล่าสุด น้ำเข้าท่วม 3 อำเภอ 6 ตำบล 30 หมู่บ้านในพื้นที่ อ.แก่งกระจาน อ.ท่ายาง และ อ.บ้านลาด ทั้งนี้ มวลน้ำจำนวนมาก ผู้สื่อข่าวคาดว่า จะมาถึงเมืองเพชรเที่ยงวันพรุ่งนี้ ซึ่งทางด้าน นายสันต์ จรเจริญ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานเพชรบุรี บอกว่า ระดับน้ำที่จะท่วมตัวเมืองเพชรบุรี จะอยู่ที่ 10 – 20 เซนติเมตร นานประมาณ 5 -7 วัน ซึ่งการเตรียมพร้อมของทางจังหวัดได้มีการบูรณาการเครื่องสูบน้ำเข้ามาเต็มที่คาดว่าในตัวเมืองเพชรบุรี อาจสูบออกได้ทันอาจไม่ได้รับลกระทบอย่างที่คาดการณ์ไว้
เทศบาลหนองคายเร่งระบายน้ำหลังน้ำโขงเพิ่มสูง
สถานการณ์แม่น้ำโขงที่ จ.หนองคาย ตอนนี้ระดับน้ำเริ่มทรงตัวแต่ยังอยู่ในระดับสูงกว่าตลิ่งและมีแนวโน้มว่าจะลดลงต่อเนื่องหากไม่มีฝนตกหนักในพื้นที่ทางตอนบนทั้งในไทยและ สปป.ลาว ล่าสุด วัดที่ส่วนอุทกวิทยาหนองคาย กรมทรัพยากรน้ำ มีระดับอยู่ที่ 12.59 เมตร ซึ่งยังคงมีระดับที่สูงกว่าตลิ่งถึง 39 เซนติเมตร ทำให้ยังมีน้ำท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรไม่แตกต่างจากเมื่อวานนี้ ซึ่งเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา มีฝนตกภายในเขตเทศบาล ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมถนนประจักษ์ศิลปาคม ถนนสายหลักภายในเขตเทศบาลเมืองหนองคาย เนื่องจากฝนที่ตกลงมาไม่สามารถระบายลงในไม่น้ำโขงที่มีระดับสูงได้ อีกทั้งภายในท่อระบายน้ำ ยังมีน้ำโขงที่ซึมเข้ามาตามรอยแยกและรอยต่อของเขื่อนป้องกันตลิ่งจนปริ่มอยู่แล้ว เทศบาลยังเร่งระดมสูบน้ำที่ท่วมตัวเมืองออกแต่ค่อนข้างเป็นไปได้ช้า
เร่งตักดินน้ำบนภูเขาหวั่นน้ำเซาะถนน จ.ระนอง
ส่วนความคืบหน้าดินภูเขาสไลด์ทับถนนเพชรเกษม ขาเข้า-ออกเมืองระนอง บริเวณจุดชมวิวน้ำตกปุญญบาล ต.บางนอน อ.เมืองระนอง เข้าสู่วันที่ 4 ที่ยังคงมีดินภูเขาสไลด์ลงถนนอย่างต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่ต้องปิดถนนเพชรเกษมสายหลักเข้าเป็นวันที่ 5 แล้ว โดยให้ผู้ใช้รถใช้ถนนใช้เส้นทางสายรอง คือ สายปากน้ำเขานางหงส์-บ้านหินช้างระยะทางประมาณ 20 กิโลเมตร เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด เช้าวันนี้ เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายเร่งทำงานใช้เครื่องจักรกลตักมวลดินที่ยังคงไหลจากภูเขามาเป็นระยะอีกจำนวนมาก ซึ่งเจ้าหน้าที่เป็นห่วงว่า มวลน้ำใต้ดินที่ดินอุ้มไว้เป็นจำนวนมากไหลซึมผ่านทางชั้นดินผ่านถนนแล้วไหลลงไปยังอีกฝั่งของภูเขา โดยหากเจ้าหน้าที่ไม่สามารถตักดินจำนวนมหาศาลออกได้หมดภายในช่วงนี้ อาจทำให้ดินด้านล่างของถนนถูกกัดเซาะหายไปจนเกิดเหตุถนนขาดได้
ปภ. รายงานอุทกภัยยังกระทบ 10 จังหวัด
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หรือ ปภ. กระทรวงมหาดไทย รายงานอุทกภัยจากอิทธิพลของพายุโซนร้อนและมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ทำให้เกิดสถานการณ์ภัยรวม 40 จังหวัด ขณะนี้คลี่คลายแล้ว 30 จังหวัด ยังมีสถานการณ์อุทกภัยอีก 10 จังหวัด แยกเป็นอุทกภัยจากพายุโซนร้อน “เบบินคา” 5 จังหวัด คือ น่าน พะเยา เชียงราย เพชรบูรณ์ และหนองคาย และอุทกภัยจากพายุโซนร้อน “เซินติญ” 5 จังหวัด คือ นครพนม อุบลราชธานี บึงกาฬ กาฬสินธุ์ และ จ.เพชรบุรี น้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ คือ อ.แก่งกระจาน อ.ท่ายาง และ อ.บ้านลาด ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,741 คนใน 404 ครัวเรือน ซึ่งตอนนี้ระดับน้ำในแม่น้ำเพชรบุรีเพิ่มสูงขึ้น โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ พร้อมกับแจกจ่ายถุงยังชีพและเครื่องอุปโภคบริโภคเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ว