จากกรณีที่โซเชียลมีเดียใน จ.อ่างทอง แชร์พฤติกรรมทุก ๆ เช้า พระหนุ่มขับรถกระบะพร้อมด้วยพระสูงอายุ และสีกาอีก 2 คนมารอรับบิณฑบาตในตลาดอ่างทอง โดยนำสิ่งของรับบาตรบรรทุกเต็มกระบะออกไปทุกวัน ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจับกุมได้ทั้งหมดซึ่งทราบภายหลังว่าเป็นครอบครัวเดียวกัน
พระครูวรปัญญาโกศล รองเจ้าคณะอำเภอเมืองอ่างทอง พระวินยาธิการ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจ สภ.เมืองอ่างทอง เข้าตรวจสอบพระสงฆ์ยืนบินฑบาตในตลาดเทศบาล 2 หลังโซเชียลมีเดียแชร์พฤติกรรมไม่เหมาะสม เนื่องจากมีพระ 2 รูปขับรถกระบะมาพร้อมกับหญิงสาว 2 คนนั่งรอรับบิณฑบาตในพื้นที่ดังกล่าว
จากการตรวจสอบพบว่าพระทั้งสองรูปและหญิงสาวทั้ง 2 คนนำสิ่งของที่ได้จากการทำบุญของพุทธศาสนาสนิกชนใส่รถกระบะโตโยต้า สีเขียว อาทิ อุปกรณ์เครื่องครัว เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องมือทำเกษตร รวมทั้งชุดเจ้าหน้าที่และบัตรประจำตัวอาสาสมัครกู้ภัย ระบุชื่อ นายสมศักดิ์ อิ่มสภาร จึงเชิญตัวทั้งหมดมาสอบปากคำที่ สภ.เมืองอ่างทอง
สอบสวนทราบว่าทั้งหมดเป็นครอบครัวเดียวกันมี พระสมบัติ อคคธมโม (อัคคะทำโม) อายุ 70 ปี และ พระพงษ์ศักดิ์ พุทสาโร อายุ 36 ปี เป็นพระลูกเขย โดยหญิงสาวที่มาด้วยก็คือภรรยาของ พระสมบัติ และ พระพงษ์ศักดิ์ ทั้งหมดอาศัยวัดหน้าวัว ต.โรงช้าง อ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นวัดร้างก่อนขับรถมาบิณฑบาตที่ตลาดเมืองอ่างทอง
และจากการตรวจสอบใบรับรองซึ่งใช้แทนใบสุทธิพบว่า พระสมบัติ บวชที่วัดแห่งหนึ่งใน จ.สิงห์บุรี ส่วน พระพงษ์ศักดิ์ บวชเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาภายในวัดแห่งหนึ่งที่ จ.เพชรบูรณ์ ก่อนเดินทางมาอยู่ที่วัดหน้าวัวและออกบิณฑบาตด้วยกันทั้งครอบครัว โดยอ้างว่า ของบิณฑบาตที่เหลือก็เอาไปให้สุนัข-แมวที่เลี้ยงไว้ภายในวัดแต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ และตรวจสอบภายในกระเป๋า พระสมบัติ พบว่า ยังมีใบสุทธิอีกหนึ่งใบที่บวชอยู่ที่ จ.อ่างทอง แต่ยังไม่มีการลงรายละเอียดในการลาสิกขาบทแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่จึงประสานงานเจ้าหน้าที่สำนักพุทธศาสนาจังหวัดอ่างทองและ พระสินยาธิการให้ดำเนินการ
ทางด้าน พระครูวรปัญญาโกศล พระวินยาธิการเปิดเผยว่า การกระทำดังกล่าวไม่เหมาะสม ยิ่งเป็นพระภิกษุไม่ควรมีสีกามาร่วมในการบินฑบาตด้วย ทำให้เกิดโลกะวัชะหรือโลกติเตียน รวมทั้งผิดวินัยสงฆ์ เบื้องต้นให้ทั้งสองยอมลาสิขาบทก่อนประสานให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการต่อไป
