ศาลอุทธรณ์ มีคำสั่งยืนตามศาลชั้นต้น ในคดีที่พนักงานอัยการคดีอาญา3 เป็นโจทก์ฟ้อง บริษัทไร่ส้มจำกัด / นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา / นางสาว มณฑา ธีระเดช / และนางสุภัสชา บุญโต หรือ เอี่ยมสะอาด อดีตเจ้าหน้าที่จัดคิวโฆษณา อสมท. ในความผิดฐานร่วมกันปลอมแปลงเอกสารสิทธิ ทำให้ผู้อื่นเสียหายฯ ชี้ เป็นการยื่นฟ้องซ้ำคดีเดิม
นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา อดีตพิธีกรรายการเล่าข่าวชื่อดัง และกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไร่ส้ม จำกัด เดินทางมาศาลอาญา รัชดา เพื่อฟังคำสั่งศาลอุทธรณ์ พร้อมจำเลยคนอื่น ในความผิดฐานร่วมกันปลอมแปลงเอกสารสิทธิ ทำให้ผู้อื่นเสียหายฯ กรณีพวกจำเลยนำเอกสารใบคิวโฆษณารายการคุยคุ้ยข่าวจำนวน 139 แผ่น ไปยื่นเพื่อให้ผู้อื่นหลงเชื่อว่า เป็นใบคิวโฆษณาที่แท้จริง เพื่อที่จำเลย1-3 ไม่ต้องเสียค่าโฆษณาส่วนเกิน หรือเสียน้อยกว่าความเป็นจริง ทำให้ อสมท.ได้รับความเสียหาย ระหว่างเดือน มกราคม-พฤษภาคม2549 โดยคดีนี้ ศาลชั้นต้นพิเคราะห์คำฟ้องแล้ว เห็นว่าอัยการโจทก์ยื่นฟ้องคดีซ้ำกับคดีกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์กร ซึ่งเป็นคดีหลัก ที่ศาลชั้นต้นพิพากษาไปแล้วเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2558 ดังนั้น อัยการโจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องคดีนี้อีก ให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบ แต่อัยการโจทก์ยื่นอุทธรณ์ ขอให้ศาลรับคดีปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอมไว้พิจารณาต่อ โดยอ้างว่าพฤติการณ์ปลอมเอกสารเกิดขึ้นภายหลังจากคดีติดสินบน และความผิดต่อหน้าที่ของพนักงานในองค์กร
โดยศาลอุทธรณ์พิเคราะห์แล้ว เห็นว่า ทั้งสองคดีเป็นคดีที่มีความเกี่ยวพันกัน มีเจตนาเดียวกัน เพื่อให้ไม่ต้องชำระค่าโฆษณาส่วนเกิน เมื่อศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาในคดีหลักไปแล้ว ดังนั้นสิทธิ์ของโจทก์ที่จะฟ้องคดีนี้จึงมีอันต้องระงับไป อุทธรณ์โจทก์ฟังไม่ขึ้น ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยืนตามศาลชั้นต้นให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบ เนื่องจากเป็นการฟ้องซ้ำคดีเดิม
ด้านนายสรยุทธ ระบุว่า คดีนี้เกิดขึ้นเพราะมีเจ้าหน้าที่ อสมท. ใช้ลิควิดไปแก้ไขใบคิวโฆษณา และเมื่อบริษัท อสมท. ขอให้บริษัทไร่ส้ม ส่งเอกสารไปให้ตรวจสอบ ทางบริษัทก็ส่งเอกสารจริงที่ไม่ได้มีรอยลบ เป็นการยืนยันความบริสุทธิ์ โดยไม่ทราบเลยว่าเจ้าหน้าที่คนนั้นมีการแก้ไขสำเนาเอกสารที่เคยส่งไปในอดีต ทั้งนี้ยืนยันว่าการลบสำเนาดังกล่าว ไม่สามารถปกปิดอะไรเลย เพราะในระบบมีเอกสารตัวจริงยืนยันอยู่แล้ว ส่วนเรื่องการโฆษณาเกินนั้นขอไม่ออกความคิดเห็นเพราะยังอยู่ระหว่างการพิจารณาคดี
สำหรับคดีหลัก ฐานกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์กร ศาลนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ในวันที่ 29 สิงหาคมนี้
