ตร.เตรียมแจ้งข้อหาพรากผู้เยาว์เจ้าบ่าววัยใส หลังพ่อแม่เจ้าสาวเดินทางเข้าแจ้งความ เหตุเจ้าบ่าวเบี้ยวงานแต่ง และค่าสินสอด เสียหายกว่า 3 แสนบาท ทำวิวาห์ล่ม ขณะที่เจ้าบ่าวยอมรับทั้งน้ำตา รักเจ้าสาวมาก ไม่ได้หนีไปไหน แต่ความจนเป็นอุปสรรครักแท้
จากกรณีมีการจัดงานแต่งงานมงคลสมรสอย่างยิ่งใหญ่ ระหว่างนางสาวเอ (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี และนายบี (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี ที่ อ.เขาพนม จ.กระบี่ แต่เมื่อถึงวันงาน ทางฝ่ายเจ้าบ่าวไม่ได้เดินทางมาร่วมพิธี ทำให้ทางฝ่ายเจ้าสาวและญาติพี่น้องเสียหน้าเป็นอย่างมาก จนกระทั่งพ่อแม่เจ้าสาวได้เดินความเข้าแจ้งความเอาผิดกับทางฝ่ายเจ้าบ่าวแล้วเมื่อวานนี้
ในวันนี้ ร.ต.อ.บุญส่ง ล่องวารี รองสารวัตรสอบสวน สภ.เขาพนม จ.กระบี่ เปิดเผยว่า หลังจากได้ทำการสอบปากคำนายสมพงศ์ อินศิริ อายุ 68 ปี และนางสมหมาย อินศิริ อายุ 56ปี รวมถึงบุตรสาว คือ นางสาวเอ เป็นเวลานานเกือบ 3 ชั่วโมง ตอนนี้จึงเตรียมแจ้งข้อหาพรากผู้เยาว์ต่อนายบี เจ้าบ่าว พร้อมกับจะรวบรวมหลักฐาน และค่าเสียหายจากการจัดงานแต่งงานเพื่อดำเนินคดีแพ่งกับทางญาติของทางฝ่ายเจ้าบ่าวต่อไป โดยจะทำการออกหมายเรียกนายบี และญาติ มารายงานตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และสอบปากคำในอีก 1-2 วันนี้
ในขณะที่ นายสมพงศ์ อินศิริ พ่อของนางสาวบี กล่าวยืนยันกับผู้สื่อข่าวว่า จะเอาเรื่องกับทางญาติเจ้าบ่าวให้ถึงที่สุด เพราะเห็นว่าขาดความรับผิดชอบ และทำให้ตนและครอบครัวเสียหน้า ซึ่งหลังจากที่เคยเรียกสินสอดไป 3 แสนบาท ต่อมามีการต่อรองเหลือ 1 แสน 5 หมื่นบาท และทางครอบครัวของตนก็ลดให้แล้ว จนมีการจัดงานแต่งงานขึ้น ทางญาติของเจ้าบ่าวก็ยังไม่สามารถนำเงินค่าสินสอดมามอบให้ได้ และหายเงียบไปไม่รับผิดชอบต่อกรณีที่เกิดขึ้น
เมื่อถามว่า ตอนนี้ลูกสาวของนายสมพงศ์ซึ่งเป็นเจ้าสาวได้ตั้งครรภ์ 5 เดือนแล้ว จะดำเนินการต่อไปอย่างไร นายสมพงศ์ ยืนยันว่า จะให้รอไปจนถึงกำหนดคลอด และเมื่อคลอดแล้ว ตนและครอบครัวจะเลี้ยงดูหลาน ซึ่งเป็นบุตรของลูกสาวของตนด้วยตัวเอง จะไม่ให้ไปทำแท้งหรือตั้งแง่รังเกียจแต่อย่างใด
ทางด้าน นายอัษฎาวุธ ทองคำยาน อายุ 17 ปี นักเรียน กศน.อาชีพรับจ้างช่วยแม่เก็บยาง ในฐานะเจ้าบ่าวที่ไม่ได้ไปแต่งงานเจ้าสาว เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวทั้งน้ำตาว่า ตนรักเจ้าสาวมาก และยังไม่ได้หนีไปไหน และก่อนเกิดเหตุตั้งใจไปสู่ขอและพร้อมที่จะแต่งงานแต่มาถูกกดดันให้หาเงินตกแต่งให้ได้ภายใน 2 เดือน เป็นเงินสินสอดจำนวนสามแสนบาท ตนและครอบครัวจึงหาเงินไม่ทัน