จ.พระนครศรีอยุธยา ขีดเส้นตายร้านค้ารอบพระวิหารมงคลบพิตร อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา กว่า 200 ร้านค้า สั่งย้ายภายในวันที่ 15 มี.ค.นี้ ด้านกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าหลายรายเตรียมการแล้ว วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยส่งเสริมการขาย เนื่องจากพื้นที่แหล่งใหม่ไม่ใช่แหล่งท่องเที่ยว
หลังจากทางหน่วยงานจังหวัด หลายหน่วยงานรวมทั้งศูนย์ดํารงธรรม จ.พระนครศรีอยุธยา ได้ถูกการร้องเรียนจากทาง องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ที่ดูแล “มรดกโลก” ได้พบเห็นการบุกรุกพื้นที่โบราณสถานของแหล่งท่องเที่ยวใน จ.พระนครศรีอยุธยา ทางยูเนสโกจึงมีกำหนดการให้ปรับปรุงพื้นที่ภูมิทัศน์ให้สวยงามสมกับที่เป็นแหล่ง “มรดกโลก” หรือทางยูเนสโกที่กำหนดไว้ให้อย่างสวยงามแต่ขณะนี้ในพื้นที่ดังกล่าวถูกกลุ่มร้านค้าบุกรุกและสร้างความสกปรก ไม่สวยงามกับการเป็นแหล่งท่องเที่ยวมรดกโลกของ จ.พระนครศรีอยุธยา จึงกำหนดให้มีการปรับปรุงพื้นที่ เพราะฉะนั้นหากไม่มีการปรับปรุงและปรับภูมิทัศน์ในพื้นที่แหล่งโบราณสถาน จะมีการถอนการเป็น “มรดกโลก” ของยูเนสโกดังกล่าว
ดังนั้น ทาง จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับทราบคำร้องของยูเนสโกให้มีการดำเนินการในพื้นที่จึงมีการสั่งย้ายร้านค้าให้เสร็จสิ้นภายในสิ้นเดือนมี.ค. และจะเริ่มดำเนินการตัดน้ำตัดไฟในวันที่ 15 มี.ค. นี้ เพื่อให้ร้านค้ากว่า 200 ร้านค้าได้ย้ายออกจากพื้นที่โดยมีการให้ร้านค้าแต่ละร้านมาลงทะเบียนเพื่อไปอยู่ในพื้นที่ใหม่ซึ่งเป็นพื้นที่หลังศาลากลางเก่าห่างจากวิหารมงคลบพิตรที่เดิมประมาณ 1 กิโลเมตร ซึ่งร้านค้าทั้งหมดจะย้ายไปอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวเพื่อขายของต่อไป และจะมีการประชาสัมพันธ์ในพื้นที่ให้โดยจะให้รถบัสและรถยนต์ของนักท่องเที่ยวทั้งหมดมาจอดที่หลังศาลากลาง จากนั้นจะมีรถรางของจังหวัดรับนักท่องเที่ยวไปลงในพื้นที่พระวิหารมงคลบพิตร ที่ต้องการจะไปกราบไหว้พระและโบราณสถาน ดังนั้น ได้มีคำสั่งร่วมกับทางจังหวัดฯ และทหารหน่วยศูนย์ดำรงธรรม รวมถึงกรมศิลปากรและอุทยานประวัติศาสตร์ฯ ร่วมกันเพื่อทำให้พื้นที่สวยงามจึงต้องดำเนินการให้ร้านค้าไปอยู่ในพื้นที่ที่เหมาะสมภายในก่อนสิ้นเดือนนี้เพื่อเป็นความระเบียบเรียบร้อย หากยังไม่มีผู้ใดไปลงทะเบียนหรือย้าย ทางเจ้าหน้าที่ทั้งหมดจะดำเนินการหรือร้านและดำเนินการตามกฎหมาย
ขณะที่เจ้าของร้านค้าหลายคนที่ตั้งอยู่ข้างวิหารมงคลบพิตรซึ่งเป็นพื้นที่โบราณสถาน บอกว่า ความคิดเห็นที่ถูกย้ายในครั้งนี้ที่ให้ย้ายไปในพื้นที่อื่นคิดว่าน่าจะลำบากแน่นอน เนื่องจากนักท่องเที่ยวจะไม่มีอยู่ในพื้นที่นั้นจริง ๆ อยากให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาจัดระเบียบร้านค้าทำให้สวยงามในแหล่งท่องเที่ยวข้างวัด โดยการสร้างร้านค้าแบบหลังคาโบราณให้ดูสวยงามเพื่อจะได้ช่วยจับพ่อค้าแม่ค้าได้ เนื่องจากยังกังวลว่า หากย้ายไปที่ใหม่จะไม่มีนักท่องเที่ยวมาซื้อของ
ส่วนทางจังหวัดฯ บอกว่าจะมีนักท่องเที่ยวไปจอดรถที่ร้านค้าที่อยู่ใหม่นั้น คาดน่าจะมีจำนวนน้อยเนื่องจากหลายคนยังใช้รถส่วนตัวอาจจะมาจอดข้างพระวิหารมงคลบพิตรเหมือนเดิม และจะมีเพียงแต่รถบัสเท่านั้น นักท่องเที่ยวหลายคนเมื่อรู้ว่าเสียเงินแล้วน่าจะไม่มีใครจอดแน่นอน เพราะไม่อยากเสียเงินค่ารถรางอีก และอยากให้จัดระเบียบทางพระวิหารมงคลบพิตรเพื่อให้พ่อค้าแม่ค้าอยู่คู่กับหลวงพ่อฯ และจัดระเบียบให้สวยงาม เป็นแหล่งท่องเที่ยวโบราณให้สวยงามมากขึ้น จะมีเรื่องปัญหาอะไรก็แจ้งกับแม่ค้าได้และให้เช่าก็ได้เพื่อให้กลุ่มผู้ค้าอยู่ได้