เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา (17 ก.พ. 60) เวลา 01.30 น. ร้อยตำรวจเอก สุชาติ ซ้อนพุทรา ร้อยเวรสอบสวน สถานีตำรวจภูธรโพธิ์กลาง ได้รับแจ้งจากพนักงานขับรถไฟ ดีเซลรางปรับอากาศชั้น 2 ขบวนเที่ยวล่องที่ 22 อุบลราชธานี-กรุงเทพมหานคร ว่า ขับรถไฟทับร่างชาวบ้าน คาดว่าจะเสียชีวิตคาที่ เหตุเกิดบริเวณทางตัดข้ามรถไฟ บ้านหนองเป็ดน้ำ ม.9 ต.โคกกรวด อ.เมืองนครราชสีมา หลังรับแจ้งจึงรีบรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยอาสาสมัครหน่วยกู้ภัย ฮุก 31 ประจำจุดตำบลโคกกรวด ในที่เกิดเหตุเป็นทางข้ามรถไฟ พบชาวบ้านจำนวนมากพากันยืนมุงดูร่างของผู้ที่ถูกรถไฟทับจนร่างขาดออกจากกันเป็นท่อน ๆ กระจัดกระจายเต็มรางรถไฟ ทราบชื่อต่อมาคือ นายสมนึก แก้วด่านกลาง อายุ 59 ปี ชาวบ้านในหมู่บ้าน ส่วนรถไฟคู่กรณี หลังเกิดเหตุ ได้นำรถไฟไปจอดรอให้การที่สถานีรถไฟโคกกรวด
จากการสอบถาม นายปัญญา วีระภักดี พนักงานขับรถไฟขบวนดังกล่าว ทราบว่า ได้ขับรถไฟออกมาจากสถานีรถไฟนครราชสีมา โดยมีผู้โดยสารมาจำนวนหนึ่ง เมื่อขบวนรถไฟแล่นมาถึงจุดเกิดเหตุ ซึ่งมีไฟส่องสว่างพอประมาณสังเกตเห็น นายสมนึก นอนพาดขวางบนรางรถไฟ ตนเองพยายามเปิดหวูดรถไฟ เพื่อเตือนว่ารถไฟกำลังมาแต่นายสมนึกไม่มีทีท่าจะลุกขึ้นแต่อย่างใด ตนจึงพยายามที่จะหยุดรถแต่เนื่องจากความเร็วของขบวนรถไฟทำให้หยุดรถไม่ทัน จึงพุ่งทับร่างนายสมนึกอย่างแรงจนร่างขาดออกจากกัน ตนจึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าว
ด้าน นางนพรัตน์ งดสูงเนิน อายุ 61 ปี พี่สาวของนายสมนึก ผู้ตาย เปิดเผยว่า นายสมนึก น้องชาย ไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง ชอบดื่มสุราเป็นประจำ ที่ผ่านมา เคยบ่นว่าอยากใช้ชีวิตช่วงบั้นปลายด้วยการบวชเป็นพระ จึงได้ตัดสินใจไปขอพักอาศัยกับพระวัดใกล้เคียง เพื่อที่จะเตรียมตัวบวช แต่เจ้าอาวาสยังไม่บวชให้ เนื่องจากอยากให้ นายสมนึก เลิกสุราให้ได้เสียก่อน ทำให้นายสมนึก เกิดอาการน้อยใจ ก่อนเกิดเหตุ ได้ดื่มสุราจนเมา ก่อนจะเดินมานอนขวางราง เพื่อให้รถไฟทับตายดังกล่าว ซึ่งหลังจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ส่งศพไปชันสูตรอย่างละเอียดที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ก่อนจะมอบศพให้ญาตินำกลับไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป