ชาวบ้าน ม.1 ต.นาจักร อ.เมืองแพร่ กว่า 50 คน บุกขึ้นโรงพักแจ้งความกับตำรวจ สภ.เมืองแพร่ หลักถูกคณะกรรมการกลุ่มออมทรัพย์ฯ 3 คน โกงเงินออมทรัพย์กว่า 2 ล้านบาท แม้ว่าเคยแจ้งความดำเนินคดีและมีการไกล่เกลี่ยเพื่อให้คืนเงินและได้คืนมาเป็นบางส่วนแล้วก็ตาม แถมส่อแววว่าจะไม่รับผิดชอบตามสัญญายอมรับสภาพหนี้
นายสิงหา เพียรพาก อายุ 40 ปี พร้อมด้วยชาวบ้าน ม.1 ต.นาจักร อ.เมือง จ.แพร่ จำนวนกว่า 50 คน เข้าแจ้งความกับ พ.ต.อ.ชลทฤษ ชัชวาลย์ ผกก.สภ.เมืองแพร่ หลังจากถูกคณะกรรมการกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตบ้านแต หมู่ที่ 1 ต.นาจักร 3 คน โกงเงินออมทรัพย์กว่า 2 ล้านบาท ซึ่งได้แจ้งความดำเนินคดีและมีการไกล่เกลี่ยเพื่อให้คืนเงินและได้คืนมาเป็นบางส่วน และอาจส่อแววว่าจะไม่รับผิดชอบตามสัญญายอมรับสภาพหนี้ ทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนขาดสภาพคล่องทางการเงิน
ทั้งนี้ ชาวบ้านในพื้นที่ ม.1 ต.นาจักร จำนวน 143 คน ฝากเงินออมทรัพย์เพื่อการผลิตที่ทางหมู่บ้านก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 2547 แทนการฝากเงินธนาคารพาณิชย์มีเงินหมุนเวียนกว่า 2 ล้านบาท โดยมีการจ่ายเงินคืน เบิกถอน และมีดอกเบี้ยกับเงินปันผลทุกสิ้นปี อย่างไรก็ตาม เมื่อปลายปี 2559 เป็นต้นมา ชาวบ้านที่ฝากเงินออมทรัพย์ไม่สามารถเบิกเงินคืนได้ในสถานการณ์จำเป็นทำให้ขาดสภาพคล่อง และพบว่ากรรมการบริหารกองทุนออมทรัพย์ของหมู่บ้านมีการนำเงินไปใช้ส่วนตัว เมื่อชาวบ้านทราบเรื่องจึงพยายามถอนเงินออมทรัพย์คืนไม่มีการฝากต่อและพยายามทวงถามเงินคืน ก่อนมีการร้องเรียนขอความช่วยเหลือไปยังศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดแพร่ และทางตำรวจ สภ.เมืองแพร่ ได้รับแจ้งความเอาไว้ และพยายามให้หาทางไกลเกลี่ยเพื่อให้มีการคืนเงิน โดยคิดเอาเฉพาะเงินต้นที่ชาวบ้านผู้เสียหายฝากสมทบตัดดอกเบี้ยออก จนภายหลังคณะกรรมการทั้ง 3 คนยอมรับสภาพหนี้ โดยมีการชดใช้ชำระเงินคืน ตามส่วนความเสียหายมีการคืนเงินเป็นบางส่วน และได้เฉลี่ยคืนให้ผู้เสียหายบางส่วน
จนถึงปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ได้ครบกำหนดชำระเงินคืนปรากฏว่ากรรมการทั้ง 3 คนไม่สามารถหาเงินมาชดใช้ได้จึงรวมตัวกันเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองแพร่ เพื่อขอความช่วยเหลือ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้เรียกคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่ายมาคุยกันเรื่องเงินส่วนที่เหลือต้องชดใช้ เพราะเป็นคดีที่สามารถตกลงกันได้แต่ต้องให้ระยะเวลา ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ เด็ก รวมถึงเกษตรกรที่จะต้องนำเงินไปใช้เป็นทุนในการทำการเกษตร ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ. เมืองแพร่ จะได้รับเรื่องและช่วยเหลือต่อไป