ชาวบ้านในพื้นที่ ต.ยาง อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ ต้องฮือฮาเมื่อพบโครงกระดูกคนโบราณในพื้นที่นานั่งคดคู้ในไห คาออายุหลายร้อยปีแต่รอให้กรมศิลปากรมาตรวจสอบโดยละเอียด บางส่วนนำดอกไม้-ธูปเทียนมากราบไหว้เพื่อขอพรขอโชคลาภตามระเบียบ
วานนี้ (5 มี.ค.60) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้าน ว่า มีการขุดดินลอกคลองและได้พบโครงกระดูกมนุษย์โบราณอยู่ในที่นาของนางทวีศักดิ์ นึกดี อายุ 80 ปี เลขที่ 68 บ้านยาง ม.1 ต.ยาง อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ ในพื้นที่ 5 ไร่
ต่อมาผู้สื่อข่าวจึงลงพื้นที่ตามที่ได้รับแจ้งพบว่าจุดที่พบโครงกระดูกมนุษย์โบราณ ห่างจาก อบต.ยาง ประมาณ 500 เมตร ทราบจากชาวบ้านในพื้นที่ว่า เจ้าของที่นาได้จ้างให้รถแบ็คโฮ มาขุดลอกที่นาเพื่อทำการเกษตร ตามแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ในวันที่ 5 มีนาคม และคาดว่า จะใช้เวลา หนึ่งวันจนถึงมืดค่ำขอวันเดียวกัน ถึงจะแล้วเสร็จ โดยลักษณะทำเป็นแปลงยกร่องสามแปลง มีร่องน้ำสามร่องลึกสามเมตร เพราะว่าเจ้าของที่ดินมีโครงการจะปลูกมะพร้าว กล้วย มะนาว ตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9
ส่วนผู้ที่พบโครงกระดูกคนแรกนั้นคือลูกสะใภ้ของ นายทวีศักดิ์ นึกดี เจ้าของที่นา ทราบชื่อต่อมา คือ นางเจนจิรา คนึงดี อายุ 35 ปี ซึ่งเปิดเผยว่า ตอนนั้นตนได้เดินไปดูแปลงนาและพบร่องน้ำที่รถขุดไว้ หลังจากนั้นตนเองก็เหลือบมองเห็นดิน จุดที่เห็นโครงกระดูกมีสีดำออก ๆ เยอะมาก ด้วยความสงสัยตนจึงไปเอาเสียมมาแซะดูจึงรู้ว่าเป็นไหจึงมีความอยากรู้ ได้เอาเสียมกระแทกไหให้แตก พอไหแตกออกมาครึ่งหนึ่งเท่านั้นเอง ตนถึงกับผงะตกใจ เพราะที่เจอคือโครงกระดูกมนุษย์ หลังจากตั้งสติได้จึงไปเรียกสามีให้มาดู พอรู้ว่าเป็นอะไรแล้วจึงแจ้งไปยังผู้ใหญ่บ้าน กำนัน และนายก อบต.ยาง ให้มาตรวจดูว่าเป็นกระดูกของคนในยุคปัจจุบันหรือยุคโบราณ พอชาวบ้านทราบข่าวมาดูกันจำนวนมาก และบอกว่าน่าจะเป็นโครงกระดูกมนุษย์โบราณอายุน่าจะหลายร้อยปี ชาวบ้านบอกว่าถึงไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่ จากนั้นก็มีชาวบ้านนำดอกไม้ ธูปเทียน ขนมหวาน น้ำเปล่า น้ำส้ม มากราบไหว้ เพื่อขอพรเป็นสิริมงคลและขอโชคลาภตามระเบียบ
ทางด้าน นายก อบต.ยาง กำนัน ต.ยาง และผู้ใหญ่บ้าน มีมติร่วมกันให้มีการจัดคนมาดูแลผลัดเปลี่ยนกันเป็นเวรยามเพื่อมิให้ใครลงไปจับต้อง เพราะต้องรอเจ้าหน้าที่จากกรมศิลปากร มาตรวจสอบโดยละเอียดต่อไปอีกครั้ง