งานนี้ทำเอาชาวบ้านใน จ.กาญจนบุรี ถึงกับสุดทน เมื่อพบชายแต่งกายคล้ายพระสงฆ์แอบมาเปลี่ยนจีวรซ่อนไว้ใกล้กองขยะ ก่อนเปลี่ยนชุดเป็นฆราวาสนั่งดื่มสุรา-เบียร์จนเมาปลิ้น ก่อนเรียกตำรวจรวบตัวนำไปตรวจสอบ
เย็นวานนี้ (14 ก.พ.60) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองกาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากพลเมืองดี ว่า พบชายแต่งกายคล้ายพระสงฆ์มาแอบเปลี่ยนชุดเป็นฆราวาสแล้วเอาชุดไปซุกซ่อนไว้บริเวณกองขยะ ด้านหลังตลาดเรดซิตี้ เขตเทศบาลเมืองกาญจนบุรี ก่อนที่ชายคนดังกล่าวจะไปนั่งดื่มเบียร์อยู่ที่หน้าร้านค้าแห่งหนึ่ง หลังรับแจ้งเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเดินทางไปตรวจสอบที่ร้านค้าดังกล่าว
เมื่อไปถึงพบผู้ชายแต่งกายใส่เสื้อยืดสีน้ำเงินเข้ม กางเกงยีนส์สีดำ และสวมหมวกปิดบังใบหน้า กำลังนั่งดื่มเบียร์และสูบบุหรี่อยู่ที่โต๊ะหินอ่อนของทางร้าน เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปสอบถาม ชายคนดังกล่าวกลับแสดงท่าทีตกใจ พร้อมให้การปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นพระและไม่ได้ไปถอดจีวรทิ้งไว้ที่ข้างกองขยะอย่างที่ถูกกล่าวหา แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ถอดหมวกออกก็พบว่าชายคนดังกล่าวโกนศีรษะโล้นและโกนคิ้วคล้ายกับพระสงฆ์จริง ก่อนที่พลเมืองดีที่เป็นผู้แจ้งเบาะแสจะพาเจ้าหน้าที่ตำรวจไปดูจุดที่ชายคนดังกล่าว ถอดจีวรซุกซ่อนเอาไว้ บริเวณกองขยะห่างจากร้านดังกล่าวประมาณ 200 เมตร
อย่างไรก็ตาม เมื่อชายคนดังกล่าวเดินเข้าไปถึงพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ มีเด็กผู้หญิงอายุประมาณ 5 ขวบ เดินไปหยิบถุงผ้าสีขาวมาส่งให้ เมื่อเปิดดูภายในพบสบง จีวร และประคตของพระสงฆ์อยู่ภายใน แต่ชายคนดังกล่าวยังคงปฏิเสธว่าไม่ใช่ของตนและยังยืนยังอย่างหนักแน่นว่าตนไม่ใช่พระสงฆ์ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.เมืองกาญจนบุรี
จากการสอบถามพลเมืองดีที่ได้แจ้งเบาะแส เล่าว่า เห็นชายคนดังกล่าวแต่งกายด้วยจีวรพระเดินมาเปลี่ยนชุดเป็นฆราวาสที่บริเวณดังกล่าว ก่อนจะออกไปดื่มกินเหล้าจนเมาแล้วก็กลับมาสวมจีวรพระที่จุดเดิมมาหลายครั้งแล้ว จึงเกิดความไม่สบายใจที่พระสงฆ์มาประพฤติตนไม่เหมาะสมเช่นนี้ ตนจึงตัดสินใจโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมแอบขี่รถสะกดรอยตามไป จนพบว่าชายคนดังกล่าวมานั่งดื่มเหล้าที่ร้าน ก่อนจะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมดังกล่าว ส่วนเด็กหญิงวัย 5 ขวบที่นำเอาถุงผ้าซึ่งบรรจุจีวรพระมาส่งให้นั้น เล่าว่า เห็นชายคนดังกล่าวมาเปลี่ยนชุดที่บริเวณกองขยะประมาณ 2 ครั้ง ซึ่งเมื่อเปลี่ยนชุดเสร็จ ชายคนดังกล่าวก็จะหายไปนานหลายชั่วโมงก่อนจะกลับมาเปลี่ยนไปสวมจีวรพระดังเดิม
เมื่อถูกควบคุมตัวมาสอบสวนที่ สภ.เมืองกาญจนบุรี แล้ว ชายคนดังกล่าวก็ยังให้การวกวน และตรวจสอบทรัพย์สินภายในตัวพบโทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง เงินสดจำนวนหนึ่ง พร้อมบัตรประจำตัวผู้ป่วยจิตเวชของสถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ กรมสุขภาพจิต แต่ยังคงยืนยันว่าตนไม่ได้เป็นพระและมีครอบครัวแล้ว โดยตนเดินทางมาจาก จ.ราชบุรี เพื่อมาเที่ยว ส่วนเรื่องจีวรและเครื่องแต่งกายของพระนั้นยอมรับว่าชอบนำมาใส่จริง เพราะภรรยาบอกว่าใส่แล้วเป็นการสะเดาะเคราะห์จะพบแต่โชคดี
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงไม่ปักใจเชื่อเรื่องที่ชายคนดังกล่าวอ้าง พร้อมส่งตัวให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีในข้อหาแต่งกายหรือใช้เครื่องหมายเลียนแบบพระ มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
