ชาวราชบุรี แห่ต้อนรับ “ตูน บอดี้สแลม” ขณะที่อดีตข้าราชการกรมที่ดิน ผู้ป่วยเส้นเลือดในสมองแตกถึงกั
เมื่อเวลา 02.30 น. การวิ่งของ นายอาทิวราห์ คงมาลัย หรือ ตูน บอดี้สแลม นักร้องหนุ่ม และ ทีมงานโครงการก้าวคนละก้าว กับโครงการก้าวคนละก้าว ในวันที่ 2 ธันวาคม 2560 Set 2 เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ออกจากจุดสตาร์ทที่ปั๊มน้ำมันบางจาก เอ็นเคเอ็น ตำบลบางเค็ม อำเภอเขาย้อย จังหวัดเพชรบุรี เข้าสู่จุดเช็คพอยท์ที่ 2 ที่วัดสุขวราราม ตำบลบ่อกระดาน อำเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรี รวมระยะทาง 17 กม.
โดยเข้าสู่จุดลอยต่ออำเภอปากท่อ ที่แยกวังมะนาว เมื่อเวลา 05.30 น. มีประชาชนชาวอำเภอปากท่อ และชาวจังหวัดราชบุรี รวมไปถึงจังหวัดสมุทรสงครามต่างมายืนรอให้กำลังใจและร่วมกันมอบเงินบริจาคให้กับตูน บอดี้สแลม กันอย่างหนาแน่นตลอดเส้นทาง โดยมีนายประทีป นทีทวีวัฒน์ นายอำเภอปากท่อ ได้นำข้าราชการ แพทย์ และ พยาบาล ร่วมกับประชาชนชาวอำเภอปากท่อ ให้การต้อนรับและมอบเงินจำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ยังมีตัวแทนจากบริษัทเอกชนได้นำเช็คเงินสดจำนวน 10,000 บาท มามอบให้ด้วย เพื่อร่วมโครงการก้าวคนละก้าวเพื่อ 11 โรงพยาบาลทั่วประเทศ
ขณะที่บรรยากาศตามเส้นทางที่ตูน บอดี้สแลม วิ่งผ่าน ได้ที่ประชาชนโดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุ เด็ก และผู้พิการออกมาร่วมต้อนรับด้วย อย่างนางสุนทรี พลลาภ อายุ 50 ปี อดีตข้าราชการกรมที่ดินชาวจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งเป็นผู้ป่วยเส้นเลือดในสมองแตกกลายเป็นผู้พิการนั่งรถวิวแชร์ ได้มาร่วมต้อนรับพร้อมครอบครัวซึ่งออกมารอตูนตั้งแต่เวลา 05.00 น. เมื่อตูน บอดี้สแลมมาถึงได้เข้ามาทักทายและรับเงินบริจาคจำนวนหนึ่งจากนางสุนทรีและได้โอบกอดนางสุนทรีพร้อมทั้งให้กำลังใจคุณสุนทรีว่าสู้ๆ ทำให้คุณสุนทรีถึงกับปล่อยโฮร้องไห้ออกมาทันทีด้วยความตื้นตัน
ส่วนสีสันการเซลฟี่กับตูน บอดี้สแลม ชาวอำเภอปากท่อ ต่างก็นำเทคนิคกลยุทธการที่จะได้ภาพถ่ายกับคุณตูน ซึ่งไม่แพ้กับที่อื่น ซึ่งมีการนำบันไดอลูมิเนียมมากางและนำกล้องที่บันทึกภาพวีดีโอจากโทรศัพท์ตั้งไว้ในระดับที่พอดี ซึ่งเจ้าของได้มีการทดลองมาร์คตำแหน่งแถมมีการซ้อมวิ่งเพื่อให้ได้ภาพที่ออกมาสวยงาม ที่ทำเอาเรียกลอยยิ้มจากทีมงานของตูน บอดี้สแลม เป็นอย่างมาก
จากนั้น ตูน บอดี้สแลม และ ทีมงานโครงการก้าวคนละก้าว ได้เข้าสู่จุดเช็คพอยท์ที่ 2 ที่วัดสุขวราราม ตำบลบ่อกระดาน อำเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรี จบในเซ็ต 2 ระยะทาง 17 กม และพักเป็นเวลา 20 นาที ท่ามกลางบรรยากาศ ชาวอำเภอปากท่อ ตั้งแต่ วัยเด็ก จนถึง ผู้สูงอายุ ต่างมาเป็นกำลังใจ และร่วมบริจาคกันอย่างคึกคัก ขณะที่ยอดบริจาคล่าสุด 392 ล้านบาท