ชาวเรือและชาวประมงริมแม่น้ำโขงใน จ.เชียงราย ต่างวิตกกังวลแสดงความไม่เห็นด้วยที่มีการระเบิดเกาะแก่งแม่น้ำโขง เผยอาจทำให้ระบบนิเวศและวิถีชุมชนเสียหาย
หลังจากที่มีการระเบิดแก่งหินเฟสแรก ในแม่น้ำโขงทางตอนใต้ของประเทศจีนมาจนถึงแม่น้ำโขงเขตชายแดนไทย – เมียนมาร์ – ลาว ที่ สามเหลี่ยมทองคำ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย เพื่อเปิดทาให้เรือสินค้าขนาด 500 ตัน สามารถผ่านไปได้ ซึ่งทางนักอนุรักษ์ก็ได้เดินหน้าต่อต้าน ไม่ให้ดำเนินการเฟส 2 ในเขตประเทศไทย ตั้งแต่สามเหลี่ยมทองคำ อ.เชียงแสน ไปจนถึงแก่งผาได อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย ซึ่งมีทั้งหมด 8 กลุ่มเกาะแก่ง ซึ่งจะทำให้เกิดผลกระทบหลายด้านทั้งระบบนิเวศ การสุญพันธุ์ของพืชน้ำโขง พันธุ์ปลา และวิถีชีวิตของคนริม 2 ฝั่งแม่น้ำโขง โดยส่วนของชาวเรือ และชาวประมงที่ต้องใช้เรือขนาดเล็กหาปลา และสัญจรในแม่น้ำโขง ต่างก็วิตกกังวล หากมีการระเบิดเกาะแก่งหินออกไปแล้ว จะทำให้ไม่สามารถนำเรืออกจากฝั่งได้ ส่วนใหญ่จึงแสดงความไม่เห็นด้วย
นายมานิตย์ แสงเพชร ชาวประมงแม่น้ำโขง กล่าวว่า หากมีการระเบิดเกาะแก่งในแม่น้ำโขงไปแล้ว เพื่อให้มีเรือบรรทุกสินค้าขนาดใหญ่ที่คาดว่าจะมีขนาดถึง 500 ตันผ่านมาได้ จะต้องส่งผลกระทบต่อคนที่ใช้เรือเล็กอย่างเช่นชาวประมง และชาวบ้านทั่วไปที่ต้องสัญจรในแม่น้ำโขงอย่างแน่นอน เพราะปัจจุบันเพียงเรือสินค้าขนาด 100 ตันผ่าน คลื่นจากเรือสินค้าก็แรงพอที่จะสามารถทำให้เรือเล็กพลิกคว่ำได้แล้วหากมีเรือขนาด 500 ตันเข้ามาในแม่น้ำโขงเรือเล็กไม่มีทางที่จะสัญจรได้อย่างแน่นอน
ทางด้าน นายเดชา ดีแก้ว ผู้ใช้เรือในแม่น้ำโขง กล่าวว่า หากมีการระเบิดแก่งหินออกเรือขนาดเล็กจะไม่สามารถออกจากฝั่งได้เลยเพราะกระแสน้ำจะรุนแรงมากขึ้นกว่าเดิมจนเรือไม่สามารถทานแรงน้ำได้ เพราะเดิมแก่งหินจะทำหน้าที่เป็นเขื่อนตามธรรมชาติ ลดควาามรุนแรงของกระแสน้ำทำให้เรือขนาดเล็กสามารถแล่นได้