พบกับเรื่องราวสุดรันทดของชีวิตครอบครัวครูผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยลูกชายผู้ล่วงลับไม่มีงานทำ ด้านแม่ของครูวอนภาครัฐช่วยมาดูแลด้วย
นายจิรพงศ์ เล็มมณี ลูกชายของ นายจำนง เล็มมณี ครูโรงเรียนบ้านปาแตรายอ ต.เกะรอ อ.รามัน จ.ยะลา เดินทางไปดูห้องทำงานของคุณพ่อ เพื่อระลึกถึงสถานที่ทำงานของคุณพ่อเนื่องในวันครู 16 มกราคม 2561 นี้ หลังจากคุณพ่อของเจ้าตัวต้องเสียชีวิตจากเหตุการณ์กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบใช้อาวุธปืนขนาด 11 มม. ไล่ประกบยิงและเผาร่างเมื่อวันที่ 11 มกราคม 2550 ระหว่างขับรถเก๋งส่วนตัวกลับจากโรงเรียนบนถนนสาย 4060 ตะโล๊ะหะลอ – กะพ้อ บ้านพะปูเง๊าะ หมู่ที่ 4 ต.เกะรอ
หลังจากนั้น นายจิรพงศ์ เล็มมณี เดินทางกลับบ้านเพื่อไปจุดธูปไหว้ภาพคุณพ่อเพื่อให้คุณพ่อไปสู่สุขคติและช่วยมาปกป้องช่วยเหลือลูก ๆ ให้พ้นภัยและมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี หลังจากคุณพ่อเสียชีวิตทำให้ครอบครัวได้รับความเดือดร้อน ขาดเสาหลักเลี้ยงในการให้คำปรึกษาและเจือจุนครอบครัว ส่วนตัวเองก็ไม่มีงานทำ
โดย นางพร เล็มมณี วัย 80 ปี คุณแม่ของของ ครูจำนง เล่าให้ฟังว่า หลังจากลูกชายเสียชีวิตจากสถานการณ์จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทำให้ครอบครัวมีความเป็นอยู่ยากลำบากมาก ปัจจุบันอาศัยอยู่กับสามีวัย 90 ปี มีโรคต่าง ๆ มารุมเร้าอย่างต่อเนื่อง เพราะค่ารักษารักษาพยาบาลที่เคยเบิกได้ก็ขาดหายไป อีกทั้งการประกอบอาชีพก็ทำไม่ได้แล้วเพราะชราภาพ ถึงแม้ระยะหลังมีรายได้จากการให้เดือนละ 4,500 บาทก็ตาม ส่วนหลานอีก 2 คน ก็ได้แยกย้ายไปพักอาศัยในตัวเมืองยะลา เพื่อดิ้นรนในการทำมาหากินช่วยครอบครัวของเขาเพื่อความอยู่รอด
นอกจากนี้ นางพร ยังกล่าวอีกว่า ไม่มีหน่วยงานใดมาสอบถามถึงความเป็นอยู่ของตนและสามีเลย มีวันนี้เป็นครั้งแรกที่สื่อมวลชนสอบถามชีวิตความเป็นอยู่หลังสูญเสียลูกชาย จึงขอให้ทางราชการช่วยเหลือหลานทั้ง 2 คน ให้มีการศึกษาและมีอนาคตที่ดีก็พอแล้ว โดยเฉพาะ นายจิรพงศ์ อยากให้ได้เป็นอาสาสมัครรักษาดินแดน (อส.) เพื่อเป็นเสาหลักให้กับครอบครัวด้วย
เช่นเดียวกับ นายจิรพงศ์ เล็มมณี ลูกชาย ครูจำนง กล่าวว่า หลังจากคุณพ่อเสียชีวิตไป ชีวิตครอบครัวเปลี่ยนไปไม่มีที่ปรึกษา ไม่มีคนที่จะมาดูแลความเป็นอยู่ให้กับลูกๆ และยายกับตา มีความเดือดร้อนมาก ตนเคยไปสมัครเป็น อส. แต่ไม่ผ่านการทดสอบร่างกาย ทำให้ตนหมดใจ ไม่เคยไปของานจากราชการเลย ตนคิดว่า หากทางราชการรับตนเป็น อส.แล้ว จะสามารถที่จะเป็นเสาหลักในการดูแลครอบครัวและน้องชายได้ และตนจะไม่เรียกร้องใดจากทางราชการอีกต่อไป
สำหรับสถานการณ์เหตุความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา ได้คร่าชีวิตครูไป จำนวน 184 ราย ทางราชการรับรองเหตุ จำนวน 180 ราย ครูบาดเจ็บ จำนวน 126 ราย พิการทุพลภาพ จำนวน 11 ราย โดย นายบุญสม ทองศรีพราย ประธานสมาพันธ์ครูจังหวัดชายแดนภาคใต้ เปิดเผยว่า ทางสมาพันธ์ฯ เรียกร้องให้รัฐบาลและกระทรวงศึกษาธิการ ช่วยดำเนินการตามข้อเสนอของครูและครอบครัวครูที่ได้รับผลกระทบถึงเสียชีวิตและพิการทุพพลภาพ ให้จ่ายเงินคนละ 4 ล้านบาท ซึ่งได้เรียกร้องมาตั้งแต่ปี 2556 ขณะนี้เรื่องยังอยู่ที่ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ หากรัฐบาลได้จัดงบประมาณมาให้ครอบครัวในส่วนนี้คนละล้านบาท จำนวน 180 ราย จะได้วงเงินเพียง 514 ล้านบาทเท่านั้น