ตำรวจยิงชาวบ้านอีกแล้ว เกิดเหตุชุลมุน หลังชาวบ้านถูกยิงเสียชีวิต ญาติลั่นเอาผิด และตั้งการขอสงสัยในการทำงานตำรวจปราบปรามยาเสพติด
เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น สถานีตำรวจภูธรเมืองยะลา รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกยิง อยู่บริเวณถนนเวฬุวัน อ.เมือง จ.ยะลา ได้แจ้งผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์ และเจ้าหน้าที่สืบสวนเดินทางไปยังที่เกิดเหตุ
เมื่อไปถึงพบนายอาหะมะ โมสะอะ อายุ 30 ปี ที่อยู่บ้านเลขที่ 29 ม.2ต.บือมัง อ.รามัน จ.ยะลา นอนเสียชีวิตจมกองเลือดริมถนน สภาพถูกกระสุนปืนบริเวณคอ 1 นัด ใกล้กันพบซองอาวุธปืนตกอยู่ในที่เกิดเหตุประมาณ 20 เมตร และเกิดเหตุชุลมุน เมื่อชาวบ้านไม่พอใจ และตั้งขอสงสัยถึงการปฎิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ หลังทราบว่าผู้ก่อเหตุเป็นตำรวจ จนต้องมีการปิดกั้นทางเข้าออกไม่ให้ชาวบ้านที่เหลือเข้ามายังจุดเกิดเหตุ จนกระทั้งเวลา 23.30 น.ศพพร้อมญาติถูกไปยังโรงพยาบาลยะลา และนำไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาต่อไป
จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่เบื้องต้น ก่อนเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดดังกล่าว ได้เข้าปิดล้อม ขนำบริเวณหลังหมู่บ้าน ซึ่งเป็นแหล่งมั่วสุ่มของกลุ่มวัยรุ่นหลังยาเสพติดที่มีการระบาดอย่างหนัก แต่กลุ่มวัยรุ่นสามารถหลบได้ จึงติดตาม จนเห็น นายอาหะมะ ผู้ตาย เดินอยู่ข้างทาง และล็อกตัวเพื่อจำกุม แต่นายอาหะมะ ไม่ยอม จนนายอาหะมะถูกยิงเสียชีวิตในที่สุด
เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานยะลา 10 ได้เก็บวัตถุพยานไว้ทั้งปลอกกระสุน และเขม่าดินปืน รวบรวมพยานหลักฐาน สอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้อง เพื่อแจ้งข้อกล่าวหากับตำรวจที่ก่อเหตุ และพบว่า เป็นตำรวจชุดปฎิบัติปราบปรามยาเสพติด ตำรวจภูธรจังหวัดยะลา
ขณะที่ญาติผู้เสียชีวิตเผยว่า ในช่วงเวลานั้น นายอาหะมะ รับประทานก๋วยเตี๋ยวอยู่ภายในร้าน และแม่ค้าก็ยืนยันว่าตอนนั้นอยู่ในร้านจริง เมื่อนายอาหะมะ กินเสร็จได้เดินออกจากร้านเพียง 50 เมตร ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดดังกล่าวจับและพยายามนำตัวและพยายามลากขึ้นรถแต่นายอาหะมะ ไม่ยอม เกิดการทำร้ายร่างกาย ชกต่อย จนเสียงปืนดัง 1 นัดแล้ว นายอาหะมะ ล้มลง ทำให้ชาวบ้านผู้เหตุเหตุการณ์ อยู่ใกล้กับจุดเกิดเหตุไม่พอใจรุมเข้ามา ในการทำงานของตำรวจชุดดังกล่าว ทำผิดอะไร มีอะไรยืนยัน ถึงขั้นต้องยิง จึงขอความเป็นธรรมกับเหตุการณ์ในครั้งนี้
พล.ต.ต กฤษฎา แก้วจันดี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา เปิดเผยว่า ทราบตำรวจชุดดังกล่าวแล้ว จะมีการเอาผิดทางอาญา และทางวินัย ตามกฎหมาย พร้อมให้ความเป็นธรรมกันทุกฝ่าย จะไม่มีการช่วยเหลืออย่างเด็ดขาด พร้อมเร่งรัดดำเนินการทางวินัยต่อไป