ความคืบหน้ากรณีที่ญาติของ น.ส.วรัชญา จันทร์มา หรือ “น้องอิงค์” นักศึกษาชั้นปีที่ 3 มหาวิทยาลัยราชภัฎวไลยอลงกรณ์ ติดใจการทำงานของแพทย์และพยาบาลโรงพยาบาลอ่างทอง หลังยื้อเวลาการรักษาจากอุบัติเหตุทางถนนจนอาการทรุดหนักสุดท้ายเสียชีวิต โดยที่ผ่านมาได้ขอคำชี้แจงจากผู้บริหารก่อนเดินหน้าทวงความเป็นธรรม ล่าสุด ญาติของ น้องอิงค์ อุ้มพระพุทธรูปพร้อมรูปถ่ายฟังคำชี้แจงจากเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลอ่างทอง ลั่นขอหารือครอบครัวก่อนเดินหน้าทวงความเป็นธรรมต่อเนื่อง
วันนี้ (26 มี.ค.61) นวยอำนวย จันทร์มา บิดาของ น.ส.วรัชญา จันทร์มา หรือ “น้องอิงค์” และครอบครัว เดินทางมาที่ศาลากลางจังหวัดอ่างทอง พร้อมนำพระพุทธรูปและรูปถ่ายของ “น้องอิงค์” มาฟังคำชี้แจงจาก นายแพทย์พงษ์นรินทร์ ชาติรังสรรค์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลอ่างทอง และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลอ่างทอง หลังจากก่อนหน้านี้ยื่นหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรมต่อ นายวีร์รวุทธ์ ปุตระเศรณี ผู้ว่าราชการ จ.อ่างทอง กรณี “น้องอิงค์” ประสบอุบัติเหตุตกรถจักรยานยนต์เลือดคั่งในสมองก่อนเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลอ่างทอง และถูกส่งตัวต่อรักษาที่โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา ก่อนจะเสียชีวิตเมื่อวันที่ 12 มีนาคมที่ผ่านมา โดยทางญาติติดใจขั้นตอนการรักษาของโรงพยาบาลอ่างทองที่ใช้เวลาในการรักษาเบื้องต้นก่อนส่งตัวไปยังโรงพยาบาลอีกแห่งหนึ่งใน จ.พระนครศรีอยุธยา นานกว่า 5 ชั่วโมง จนเป็นสาเหตุทำให้ไม่สามารถผ่าตัดสมองได้และทำให้ “น้องอิงค์” เสียชีวิตหรือไม่
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลอ่างทอง ยอมรับว่า ห้วงระยะเวลาที่เกิดเหตุมีความล่าช้าในระบบการรักษาและส่งตัวจริง เนื่องจากขณะนั้นมีคนไข้ที่อยู่ในห้องฉุกเฉินจำนวนมาก ประกอบกับบุคลากรทางการแพทย์และอุปกรณ์มีไม่เพียงพอ และเมื่อต้องส่งตัวต่อไปยังโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์และบุคลากรพร้อมในการรักษาก็ต้องมีกระบวนการซึ่งอาจจะทำให้เกิดความล่าช้า ซึ่งทางโรงพยาบาลอ่างทองพร้อมที่จะนำไปปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ซึ่งหลังการชี้แจง นายอำนวย และญาติของ “น้องอิงค์” เปิดเผยว่า พอใจในระดับหนึ่งที่โรงพยาบาลจะนำกรณีของ “น้องอิงค์” ไปปรับปรุงระบบการทำงานของเจ้าหน้าที่เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย โดยหลังจากนี้จะกลับไปปรึกษากับครอบครัวว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป นอกจากนี้จะเตรียมปรึกษาทนายความเพื่อดำเนินการหาความจริงว่า สาเหตุที่ “น้องอิงค์” เสียชีวิตเกิดจากความล่าช้าของระบบการรักษาจริงหรือไม่ และต้องการให้เคสของ “น้องอิงค์” เกิดการเปลี่ยนแปลงในระบบการส่งตัวรักษาของการแพทย์ฉุกเฉินให้มีมาตรฐานที่ดีกว่านี้