3 สาวถ่ายรูปคู่ทุ่งดอกกระเจียวที่ จ.ชัยภูมิ ตกเป็นจำเลยสังคม ตั้งใจเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับผู้เผยแพร่ภาพถ่าย แต่เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ไม่รับแจ้งความเพราะหลักฐานไม่ชัดเจน ขณะที่หัวหน้าอุทยานฯ ยืนยันเจ้าหน้าที่ไม่เคยอนุญาตและปล่อยปละละเลย วอนนักท่องเที่ยวควรช่วยกันรักษาธรรมชาติ ท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติต้องมีจิตสำนึก
จากกรณีที่มีการเผยแพร่ภาพหญิงสาว 3 คน ลุยเหยียบย่ำดอกกระเจียวจนเสียหายเพื่อเข้าไปถ่ายภาพภายในอุทยานแห่งชาติไทรทอง จ.ชัยภูมิ ผ่านโซเชียลจนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ว่ากระกระทำดังกล่าวนั้นไม่เหมาะสม
ล่าสุด มีรายงานว่า กลุ่มนักท่องเที่ยวสาวที่พากันเดินลุยทุ่งดอกกระเจียวในเขตอุทยานแห่งชาติไทรทองครั้งนี้ ได้ออกมาชี้แจง ว่า การโพสต์เรื่องราวผ่านโซเชียลเป็นการลงข้อมูลที่คลาดเคลื่อน ความจริงแล้วภาพที่นำมาลงเป็นภาพเก่า และการที่เดินลงไปในทุ่งดอกกระเจียวก็ได้รับอนุญาติจากเจ้าหน้าที่แล้ว
หลังมีการวิจารณ์ผ่านโซเชียลอย่างหนัก พวกเธอรวบรวมข้อมูลเข้า แจ้งความต่อ ร.ต.อ.วัชริน หูชัยภูมิ พนักงานสอบสวนของ สภ.เมืองชัยภูมิ เพื่อเอาผิดกับผู้โพสภาพในโลกโซเชียล แต่ ในเบื้องต้นทางด้านพนักงานสอบสวน สภ.เมืองชัยภูมิไม่รับแจ้งความ เพราะภาพถ่ายที่ถูกโพสต์ผ่านโซเชียลมีการเบลอภาพไม่สามารถมองเห็นได้ชัด ประกอบกับ การโพสต์ข้อความเป็นเพียงการสะท้อนการกระทำ ไม่มีการระบุชื่อของบุคคลคนที่ลงเหยียบทุ่งดอกกระเจียวให้เสียหาย จึงยังไม่เข้าข่ายที่จะแจ้งเอาผิดคนโพสต์ในโลกโซเชียลได้
นายวรพล ดีปราศรัย หัวหน้าอุทยานแห่งชาติไทรทอง เปิดเผยว่า ได้รับทราบข้อมูลดังกล่าวแล้วและยอมรับว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงแต่ไม่มีจนท.อนุญาติให้ กลุ่มนักท่องเที่ยวหญิงดังกล่าวลงไปลุยเหยียบย่ำทุ่งดอกกระเจียวตามคำกล่าวอ้างของผู้กระทำความผิดระเบียบของอุทยานใด ๆ ทั้งสิ้น และในขณะนี้กำลังได้ประสานเพื่อติดต่อหาตัวกลุ่ม3สาวทั้งหมดมาพบจนท.อุทยานฯด้วย เพราะมีความผิดตาม พ.ร.บ.อุทยานห่งชาติ มาตรา 18
สำหรับท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติฯ ประชาชนทุกคนช่วยกันเป็นหูเป็นตาสอดส่องถ้าพบเห็นการกระทำที่ผิดระเบียบของอุทยานฯ มีนักท่องเที่ยวเดินลงไปในทุ่งกระเจียว ก็สามารถแจ้งเจ้าหน้่ที่ดำเนินการตามกฎหมายได้ทันทีได้ทันที