เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2560 ตามที่องค์กรพัฒนาเอกชนร้องเรียนผ่านศูนย์ดำรงธรรมว่า ในพื้นที่ อ.ภูเรือ จังหวัดเลย มีการลักลอบเปิดเป็นร้านคาราโอเกะบังหน้าแอบแฝงค้าประเวณี โดยมีการนำหญิงสาวจากประเทศเพื่อนบ้านอายุระหว่าง 15-20 ปี มาค้าประเวณีภายในร้าน โดยนายอำเภอ ปลัดอำเภอ และสมาชิก อส. อ.ภูเรือ จังหวัดเลย บูรณาการร่วมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) นำโดย พันตำรวจโทคมวิชช์ พัฒนรัฐ รักษาการผู้อำนวยการศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์ เข้าปิดล้อมตรวจสอบสถานประกอบการที่สุ่มเสี่ยงหรือเข้าข่ายกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ในพื้นที่ อ.ภูเรือ จังหวัดเลย ทำการตรวจสอบและจับกุมร้านคาราโอเกะในพื้นที่อำเภอภูเรือ จำนวน 3 แห่ง ได้แก่
1.ร้านภูเรือคาเฟ่ พบหญิงต่างด้าวแอบแฝงค้าประเวณี จำนวน 5 คน ตรวจสอบเบื้องต้นน่าเชื่อว่ามีอายุต่ำกว่า 18 ปี จำนวน 3 คน
2.ร้านทรายทองคาราโอเกะ พบหญิงต่างด้าวแอบแฝงค้าประเวณีภายในร้าน จำนวน 3 คน และซุกซ่อนอยู่ภายในที่พักบริเวณใกล้เคียงกับร้านอีกจำนวน 8 คน รวม 11 คน ตรวจสอบเบื้องต้นน่าเชื่อว่ามีอายุต่ำกว่า 18 ปี จำนวน 3 คน
3.ร้านมันส์มันส์คาราโอเกะ พบหญิงต่างด้าวแอบแฝงค้าประเวณี จำนวน 5 คน ตรวจสอบเบื้องต้นน่าเชื่อว่ามีอายุต่ำกว่า 18 ปี จำนวน 2 คน หญิงต่างชาติบางคนแจ้งกับเจ้าพนักงานว่าถูกเพื่อนล่อลวงมาที่ร้านนี้ อยากกลับบ้านแต่กลับไม่ได้ เพราะเป็นหนี้เจ้าของร้านอยู่ ซึ่งเด็กหญิงต่างด้าวรายนี้กำลังจะถูกนำออกค้าประเวณีครั้งแรก (เปิดบริสุทธิ์) ในราคา 6,000 บาท ซึ่งเด็กหญิงไม่เต็มใจค้าประเวณี และบางคนถูกจัดให้อยู่ในที่พักซึ่งมีสภาพทรุดโทรม สกปรก ต้องอยู่ร่วมกันอย่างแออัด
เจ้าพนักงานฝ่ายปกครอง ได้ร่วมกับพนักงานเจ้าหน้าที่จากกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.เลย DSI และพนักงานสอบสวน ทำการสัมภาษณ์เพื่อคัดแยกผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ ซึ่งหากเป็นที่แน่ชัดว่ามีการค้ามนุษย์ ก็จะดำเนินคดีกับเจ้าของและผู้ดูแลในฐานค้ามนุษย์ต่อไป