จ.ตรัง วางทุ่นกำหนดพื้นที่ 1300 ไร่ อนุรักษ์พะยูนฝูงใหญ่ที่สุดในประเทศไทย พร้อมขอความร่วมมือนักท่องเที่ยวหลีกเลี่ยงพื้นที่เขตอนุรักษ์ เนื่องจากพะยูนมีนิสัยตกใจง่าย
นายมาโนช วงษ์สุรีย์รัตน์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม จ.ตรัง พร้อมประมงอำเภอกันตัง ตัวแทนชาวประมงพื้นบ้านและเจ้าหน้าที่หลายภาคส่วน นำทุ่นสีส้มไปทิ้งลงทะเลบริเวณหน้าหาดปากเมง อ.สิเกาจนถึงบริเวณหาดหยงหลำและหน้าหมู่เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง เนื้อที่กว่า 1,300 ไร่ หลังมีการติดสัญญาณดาวเทียมบนตัวพะยูนมาแล้ว 2 ครั้งตั้งแต่ปี 2559-2560 จำนวน 6 ตัว ทำให้ทราบว่าพะยูนมีแหล่งหากินอยู่ในบริเวณดังกล่าว ซึ่งทำให้ง่ายต่อการกำหนดแนวเขตในการอนุรักษ์ และไม่รบกวนฝูงพะยูนที่มีนิสัยตื่นตกใจง่าย
โดยจะทำให้พะยูนรู้สึกปลอดภัยและมีอัตราการรอดเพิ่มขึ้น ทั้งนี้พะยูนที่เพิ่งติดสัญญาณดาวเทียมเมื่อวันที่ 7-10 เมษายน 2560 มีจำนวน 3 ตัวชื่อเจ้าจักรี,เจ้าคุ้มครองและเจ้าเอิร์ท เป็นพะยูนเพศผู้ทั้งหมด ได้ทำการส่งสัญญาณดาวเทียมให้ทราบแหล่งที่อยู่อาศัย แหล่งหญ้าทะเลและการเดินทางในแต่ละวัน โดยเฉพาะซึ่งเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านระหว่างหน้าร้อนเข้าสู่หน้ามรสุม ทำให้ทีมนักวิจัยเห็นถึงความสามารถของพะยูนในการอพยพย้ายถิ่นเพื่อหลบภาวะคลื่นลมแรงในทะเล ซึ่งง่ายต่อการกำหนดทิศทางและการวางแผนอนุรักษ์ได้ดีขึ้น สำหรับพะยูนทั้งสามตัวนี้ สัญญาณดาวเทียมจะหลุดออกไปเองภายในเวลา 60 วัน เจ้าหน้าที่ฯ จึงขอความร่วมมือเรือท่องเที่ยวและชาวประมงพื้นบ้าน หลีกเลี่ยงแนวเขตที่อุทยานฯ กำหนดไว้ พร้อมทั้งไม่ให้นำเรือเข้าไปติดตามพะยูนในระยะใกล้ โดยเชื่อว่าหากทุกฝ่ายให้ความร่วมมือ อัตราการรอดของพะยูนฝูงใหญ่ที่สุดในประเทศไทยที่จ.ตรัง จะยังคงอยู่ต่อไปในอนาคต
ด้านนายมาโนช วงษ์สุรีย์รัตน์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม จ.ตรัง กล่าวว่า หลังได้ข้อมูลจากดาวเทียมที่ติดตั้งบนตัวพะยูนแล้วได้ขอความร่วมมือกับผู้ประกอบการเรือทัวร์และหลายภาคส่วน มาร่วมกันกำหนดแนวเขตอนุรักษ์พะยูนเนื้อที่ประมาณ 1,300 ไร่ จากนั้นจึงจะทำการประชาสัมพันธ์ให้ทุกฝ่ายได้รับทราบและปฎิบัติร่วมกัน
ภาพ-ข่าว กรรณิกา ผู้สื่อข่าวไบรท์นิวส์ จ.ตรัง