ผกก.สน.พระยาไกร เรียกร้องให้มอบตัวก่อนใช้มาตรการเด็ดขาดในการจับกุม พร้อมส่งกำลังกดดันทุกพื้นที่ จากกรณีคนร้ายใช้อาวุธปืนบุกเข้าไปปล้นเงินในธนาคารธนชาต สาขาบางโคล่ ได้เงินสดกว่า 2 แสนบาท
ความคืบหน้าทางคดีล่าสุด ศาลอาญากรุงเทพใต้ ได้ออกหมายจับนายวัฒนา หรือตั๊ก ภูจริต อายุ 30 เลขที่ จ.436/2560 ในข้อหา “ชิงทรัพย์โดยมีอาวุธ” คนร้ายที่ใช้อาวุธปืนบุกปล้นเงินสดในธนาคารธนชาต กว่า 2 แสนบาท หลังจากที่ เมื่อวันที่ 8 ก.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจพบรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า มีโอ 125 อาร์อาร์ สีแดง-ขาว ทะเบียน อบท 564 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นรถจักรยานต์ที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ จอดทิ้งไว้ที่ลานจอดรถภายในโรงเรียนพระแม่มารี ขณะเดียวกันนำกำลังไปตรวจค้นยังห้องพักนายวัฒนา พบข้าวของเครื่องใช้ยังอยู่ครบถ้วน มีทั้งเอกสารต่างๆ และลูกกระสุนปืนขนาด .38 อีก 3 นัด เสื้อผ้าที่ใช้ในวันก่อเหตุ จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน และจากการสอบถาม นายกิตติวัฒน์ หรือเล็ก สร้อยสุวรรณ อายุ 43 ปี เปิดเผยว่า รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวเป็นของนายวัฒนา หรือตั๊ก ภูจริต อายุ 30 ปี อาชีพช่างซ่อมบำรุงทั่วไป ภูมิลำเนาเดิมอยู่ที่ อ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น ซึ่งปัจจุบันได้พักอาศัยอยู่หลุยส์แมนชั่น ซอยเย็นจิตต์ แขวงทุ่งวัดดอน เขตสาทร กทม. โดยรู้จักกันมากว่า 4 ปี ซึ่งตนเป็นหัวหน้างาน โดยกล่าวว่า นายวัฒนา เป็นคนหน้าตาดี มีผู้หญิงมาติดพันเยอะ และมีนิสัยติดการพนัน
ทีมข่าวจึงเดินทางไปที่หลุยส์แมนชั่น เพื่อพยายามติดต่อกับผู้ที่รู้จักกับคนร้าย ทราบแต่เพียงว่าหลังจากวันที่ก่อเหตุนายวัฒนาไม่ได้กลับมาที่แมนชั่นอีกเลย
ด้าน พ.ต.อ.รัชพล ชนะศรีขจร ผู้กำกับการ สน.วัดพระยาไกร เปิดเผยความคืบหน้าของคดีว่า ขณะนี้ได้วางกำลังไปยังจุดต่างๆ ที่คาดว่าคนร้ายจะไปซ่อนตัว ทั้งภูมิลำเนาเดิม จ.ขอนแก่น รวมถึงจังหวัดอื่นๆ และได้มีการสอบสวนกลุ่มแฟนสาวของนายวัฒนา เบื้องต้น ทั้งหมดให้การว่าไม่รู้ ไม่เห็นกับสาเหตุการก่อคดีในครั้งนี้ ซึ่งจากการคาดเดา คาดว่าคนร้ายน่าจะนำเงินไปใช้หนี้พนัน นอกจากนี้ ผู้กำกับ ยังเรียกร้อง ให้คนร้ายรีบมามอบตัว เพราะถือเป็นบุคคลที่ก่อคดีอุกฉกรรจ์และมีอาวุธในครอบครอง ตำรวจจึงอาจต้องใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดในการจับกุมตัว