เจ้าหน้าที่ตำรวจ และทหารเมืองแปดริ้วสกัดรถขนแรงงานต่างด้าว แอบลักลอบขนเข้ามาจนเต็มคันรถกระบะ อัดแน่นเบียดเสียดกันมามากถึง 36 ชีวิต เบื้องต้นโชเฟอร์สารภาพแค่รับจ้างขนมาจากประเทศเพื่อนบ้าน ก่อนนำมาส่งให้แก่ผู้จ้างวานย่านเมืองแปดริ้ว แต่ยังปากแข็งไม่ยอดซัดทอดหรือเปิดเผยถึงชื่อตัวการใหญ่ ด้านตำรวจทำได้แค่เพียงบันทึกการจับกุมพร้อมเตรียมผลักดันส่งกลับประเทศต้นทางต่อไป
26 พ.ค.60 เจ้าหน้าที่ทหารชุดควบคุมพื้นที่ และรักษาความสงบเขตพื้นที่ อ.เมืองฉะเชิงเทรา นำโดย ร.อ.อนุกูล วงษ์แม่น้อย หัวหน้าชุด ร้อย รส. ร. 111 พัน 1 กองพลทหารราบที่ 11 ค่ายสมเด็จพระนั่งเกล้า อ.เมืองฉะเชิงเทรา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ได้ร่วมกันสกัดจับกุมรถยนต์กระบะแอบขนแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าเมือง
หลังได้รับแจ้งจากพลเมืองดีที่กำลังขับรถใช้เส้นทางผ่านอยู่บนถนน เส้นทางสาย 304 กบินทร์บุรี-ฉะเชิงเทรา ในพื้นที่ อ.พนมสารคาม ว่ามีรถยนต์กระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ สีน้ำเงิน แบบแค็บ หมายเลขทะเบียน บฉ-4204 สระแก้ว มีลักษณะพิรุธ โดยที่ด้านหลังกระบะแบบคลอกเหล็ก มีการใช้ผ้าแสลมสีดำปิดบังปกคลุมเอาไว้ โดยมีคนนั่งโดยสารอัดแน่นมาภายในเป็นจำนวนมากจนเต็มคัน
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการใช้วิทยุแจ้งสกัดจับจากในเขตพื้นที่ อ.พนมสารคาม ผ่านสี่แยกสัญญาณไฟ อ.บางคล้า และผ่านจุดสกัดหลายแห่งในเขตพื้นที่ อ.เมืองฉะเชิงเทรา จนสุดท้ายจึงมาถูกสกัดจับกุมเอาไว้ได้ในที่สุด ในเขตเทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา ที่บริเวณบนถนนสาย 314 ฉะเชิงเทรา-บางปะกง ด้านฝั่งขาเข้า มุ่งหน้ามีนบุรีบริเวณใกล้กับจุดยูเทิร์นกลับรถปั้มน้ำมันบางจาก
หลังการตรวจสอบภายในรถพบว่ามีการแอบลักลอบขนแรงงานต่างด้าวชาวเป็นชาวกัมพูชามาจริงเป็นจำนวนมากถึง 35 คน เป็นชาย 21 คน เป็นหญิง 9 คน เด็ก 5 คน และคนขับซึ่งเป็นคนไทย 1 คน รวม 36 คน ที่นั่งโดยสารมาบนรถคันเดียว
จากการสอบสวน นายสุริยน มีวิรัตน์ อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 37 ม.8 ต.ซับมะกรูด อ.คลองหาด จ.สระแก้ว คนขับรถคันดังกล่าว ให้การว่า เป็นเพียงผู้รับจ้างขนแรงงานต่างด้าวเหล่านี้มาจากชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน โดยออกมาจากแนวเขตชายแดน จ.สระแก้ว ตั้งแต่เมื่อช่วงเวลา 06.00 น. จนมาถูกไล่สกัดจับกุมได้ในท้องที่ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ในช่วงเวลาประมาณ 09.00 น.
สำหรับที่หมายปลายทางนั้น ทางผู้จ้างวานยังไม่ได้บอก โดยให้นำมาส่งยังในเขตท้องที่ อ.เมืองฉะเชิงเทรา เท่านั้น แต่ยังไม่ระบุจุดหมายที่แน่ชัด โดยที่ผู้จ้างวานจะใช้โทรศัพท์ติดต่อมาบอกที่หมายปลายทางอีกครั้งว่าจะให้นำไปส่งยังตรงบริเวณจุดใด ซึ่งจะมีการติดต่อกันผ่านทางโทรศัพท์อยู่เป็นระยะโดยที่ตนไม่รู้เลยว่าผู้จ้างวานนั้นเป็นใคร แต่ที่ผ่านมาก็เคยขับรถนำแรงงานต่างด้าวเข้ามาส่งยังที่ จ.ฉะเชิงเทรา อยู่เป็นประจำบ่อยครั้งโดยที่มีการเคลียร์เส้นทางกันไว้แล้วโดยตลอด แต่ก็เคยถูกจับกุมตามรายทางมาบ้างแล้ว แต่ก็สามารถเคลียร์ได้ทุกครั้ง จนมาถูกจับกุมได้ในครั้งนี้ นายสุริยน กล่าว
ขณะเดียวกันทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการลงบันทึกจับกุมแรงงานต่างด้าวเหล่านี้เอาไว้ และจะทำการผลักดันส่งกลับประเทศตามขั้นตอนต่อไป โดยที่ไม่ได้มีการสอบสวนดำเนินคดีแรงงานต่างด้าวทางอาญาแต่อย่างใด ส่วนคนขับรถรับจ้างขนส่งยังคงถูกควบคุมตัวเอาไว้ในชั้นการสอบสวนและทำบันทึกการจับกุม
