ตามคาด! ศาลอาญารัชดา อนุมัติออกหมายจับ “ครูปรีชา-เจ๊บ้าบิ่น” 3 ข้อหา คือ แจ้งความเท็จ ให้ข้อมูลข้อมูลกับเจ้าพนักงานอันเป็นเท็จ กลั่นแกล้งผู้อื่นให้ได้รับโทษทางอาญา จากคดีหวย 30 ล้านบาท
พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผู้บังคับการกองปราบปราม เปิดเผยว่า ล่าสุดศาลอาญารัชดา ได้อนุมัติ นายปรีชา ใคร่ครวญ และนางรัตนาภรณ์ สุภาทิพย์ หรือเจ๊บ้าบิ่น ใน 3 ข้อหา คือ ส่วนความผิด 3 มาตรา ตามที่เป็นกระแส ได้แก่ มาตรา 172 ผู้ใดแจ้งความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับความผิดอาญาแก่พนักงานอัยการ ผู้ว่าคดีพนักงานสอบสวน หรือ เจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญาซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชาชนเสียหายต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับ ไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ มาตรา 173 ผู้ใดรู้ว่ามิได้มีการกระทำความผิดเกิดขึ้น แจ้งข้อความแก่พนักงานสอบสวน หรือ เจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญาว่าได้มีการกระทำความผิด ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี และปรับไม่เกิน6 หมื่นบาท มาตรา 174 กระทำการ เป็นการเพื่อจะแกล้งให้บุคคลใดต้องรับโทษหรือรับโทษหนักขึ้นผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท ซึ่งพนักงานสอบสวนสามารถนำหมายจับไปจับกุมผู้ต้องหาได้ทันที
ผบ.ตร.พร้อมเปิดให้สื่อซักปมหวย 30 ล้าน บ่ายโมง ยันสบายใจ-เปิดห้องประชุมศรียานนท์รับกองทัพนักข่าว
ขณะที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลเกี่ยวกับความชัดเจน คดีหวยลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 มูลค่า 30 ล้านบาท ที่มี ครูปรีชา ใคร่ครวญ และ ร.ต.ท.จรูญ วิมูล อ้างเป็นเจ้าที่จะมีการแถลงข่าวในเวลา 13.00 น. วันนี้ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติว่า จะเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนซักถามเรื่องนี้อย่างเต็มที่และตนเองจะตอบทุกคำถามที่ตอบได้หากไม่กระทบสำนวนคดี ยืนยันจนถึงตอนนี้ไม่ได้รู้สึกหนักใจแต่รู้สึกสบายใจดี ส่วนรายละเอียดว่าใครจะถูกผิดหรือเป็นเจ้าของหวยตัวจริงนั้นระบุเพียงว่ารอบ่ายโมง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เนื่องจากคดีนี้มีสื่อมวลชนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงได้เตรียมเปิดห้องประชุมศรียานน์ ชั้น 2 อาคาร 1 ตร.เป็นสถานที่แถลงข่าว เนื่องจากมีห้องขนาดใหญ่รองรับสื่อมวลชนได้จำนวนมาก โดยห้องประชุมดังกล่าวมักจะใช้เป็นสถานที่ประชุมและแถลงคดีสำคัญเสมอ ขณะที่สื่อมวลชนบางสำนักประสานขอรถสัญญาณถ่ายทอดเข้ามาประจำการตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา เพื่อถ่ายทอดสัญญาณสดการแถลงข่าวดังกล่าวด้วย
นอกจากนี้ยังพบว่า ประชาชนที่ติดตามเรื่องดังกล่าว ได้แสดงความคิดเห็นและวิพากวิจารณ์ผ่านนทางโชเชียลมิเดียทั้งเฟสบุ๊กและทวิตเตอร์จนกลายเป็นปรากฏการณ์ในโซเชียล