หลังชาวบ้านหลั่งไหลขอรับใบอังกาบหนู กับ เจ้าอาวาสวัดโบสถ์ จังหวัดสุโขทัย หลังพบว่า เป็น พืชสมุนไพรสรรพคุณสามารถรักษาโรคมะเร็งระยะสุดท้ายให้หายได้ เพียงแค่เด็ดกิ่งก้าน-ใบมาต้มดื่มเหมือนน้ำชา กินติดต่อกันไม่กี่เดือนก็จะเห็นผลทันที ถึงแม้ว่าแพทย์สาธารณสุข จะออกมายืนยันว่า ยังไม่มีงานวิจัยรองรับว่ากินใบอังกาบหนูแล้วจะทำให้ผู้ป่วยโรคมะเร็งหาย แต่ก็ยังเป็นความหวังสุดท้ายของญาติๆ และผู้ป่วยมะเร็ง แพงขนาดไหนก็ซื้อ
ชาวบ้านบางคนนำต้นอ่อนและกิ่งอังกาบหนูมาปักชำใส่กระถาง ขายบริเวณข้างทางปากทางเข้าวัดวัดโบสถ์ ในราคากิ่งละ 150 บาท ส่วนใบตัดใส่กระสอบปุ๋ย ถุงละ 300 บาท ซึ่งผู้ซื้อก็พร้อมที่จะจ่าย เพราะเมื่อเดินทางมาถึงวัดแล้ว ต้องผิดหวัง เพราะต้นอังกาบหนูของทางวัดหมด
ด้วยมีความหวังว่าจะรักษามะเร็งหายได้ตามคำร่ำลือ และหวังเป็นที่พึ่งทางใจให้กับญาติที่ป่วยได้ บ้าง ซึ่งบางคนเดินทางมาจากอยุธยา บางคนมาจากเชียงใหม่ ชลบุรี ก็ไม่อยากเสียเที่ยวจึงซื้อติดไม้ติดมือกลับไปด้วย
อย่างไรก็ตามก็ยังมีชาวบ้านบางกลุ่มที่นำกิ่งและใบอังกาบหนู ออกมาแจกจ่ายให้กับประชาชนที่พลาดโอกาส นำกลับไปเพื่อใช้รักษาอาการป่วยของญาติที่บ้าน จนต้นอังกาบหนูที่ปลูกไว้ริมรั้วบ้าน ก็ถูกตัดจนเหี้ยนไปหมดเช่นกัน
ขณะที่ประชาชนจากทุกสารทิศ ยังคงหลังไหลมายังวัดโบสถ์ ต.เมืองบางขลัง อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย เพื่อขอใบอังกาบหนู จากพระครูพิพัฒน์สุตากร เจ้าอาวาสวัดโบสถ์ ถึงแม้ว่าต้นอังกาบหนูที่ทางวัดได้ปลูกไว้ ประมาณ 15 ต้น ขณะนี้ถูกประชาชนที่ หลังทราบข่าวว่าสามารถรักษาโรคมะเร็งได้ ต่างเดินทางมาเพื่อขอใบอังกาบหนู จนขณะนี้เหลือแต่ตอ บ้างก็ขุดไปทั้งต้น จนทางวัดไม่เหลือใบอังกาบหนูไว้ให้ประชาชนที่เดินทางมาขอได้อีก จนทางวัดต้องติดป้ายประกาศ “ต้นอังกาบหนู แบ่งปันผู้อื่นบ้าง โลภมาก โรคไม่หาย” แต่ก็ไม่เป็นผล
จนพระครูพิพัฒน์สุตากร เจ้าอาวาสวัดโบสถ์ ต้องบอกบุญไปยังญาติโยมว่า ก็ไม่ได้ยืนยันหรอกว่า ใบอังกาบหนู รักษามะเร็งหาย แต่มีผู้ป่วยที่นำใบอังกาบหนูไปต้มกิน โดยไม่ได้รับการรักษาอย่างอื่นกลับหาย เลยต้องการบอกบุญเท่านั้น และอยากให้ญาติโยม ลองสังเกตดูว่า ต้นอังกาบหนูมีทั่วไป หาได้ไม่ยาก ไม่จำเป็นต้องเดินทางมาที่วัด
แพทย์ชี้ “ใบอังกาบหนู”ยังไม่มีผลวิจัยแก้มะเร็งได้
ขณะที่นายแพทย์สมศักดิ์ นุกูลอุดมพานิชย์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสุโขทัย กล่าวว่า ขณะนี้ได้ให้ทางแพทย์แผนไทยของจังหวัด พบว่าข้อมูลการแพทย์แผนไทยโดยส่วนใหญ่จะใช้ใบอังกาบหนู มาสกัดหรือต้ม โดยจะมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อโรคอ่อนๆ เช่นนำมาทำน้ำยาบ้วนปาก และยังมีคนทำวิจัยว่าเป็นยาลดการอักเสบเหมือนกับยาแผนปัจจุบัน และยังเป็นยาขับลมในกระเพาะอาหารรักษาโรคกระเพาะ แต่ยังไม่มีใครวิจัยว่าว่า สรรพคุณใบอังกาบหนูมีรักษามะเร็งได้ และปัจจุบันยังไม่มีงานวิจัยรองรับว่ากินใบอังกาบหนูจะมีผลรักษาโรคมะเร็ง รวมถึงไม่มีแหล่งข้อมูลไหนที่ยืนยันว่ามันสามารถช่วยหรือมีส่วนรักษามะเร็งได้จริง และขอให้คำนึงถึงปริมาณในการกินด้วยเพราะอาจมีผลกระทบต่อไตได้
