เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 3 กรกฎาคม ที่วนอุทยานถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สายฝนโปรยปรายบริเวณถ้ำหลวงอย่างต่อเนื่องแต่ไม่หนักมาก
นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฎิบัติการอำนวยการร่วมช่วยเหลือผู้ประสบภัยทั้ง 13 ชีวิต ที่ติดในถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย เปิดเผยว่า จากการพยากรณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยาระบุว่า ตลอดสัปดาห์นี้จะมีฝนตกในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง แต่การปฏิบัติการเปิดทางให้เด็กๆ และโค้ชทั้ง 13 คน ออกมาจากถ้ำให้ได้ต้องเดินหน้า โดยเฉพาะการสูบน้ำออกจากถ้ำยังคงทำต่อเนื่องทุกช่องทาง ทั้งการเจาะบาดาลและสูบน้ำออกจากทางหน้าถ้ำเพื่อลดระดับน้ำได้ทำให้ได้มากที่สุด เพื่อความปลอดภัยและเอื้ออำนวยต่อการนำทั้ง 13 ชีวิตออกจากถ้ำอย่างปลอดภัย
ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า ปฏิบัติการด้านอื่นๆ ก็ยังคงเดินหน้าทุกช่องทางคู่ขนานยังไม่สั่งให้หยุด ทั้งการหาโพรงเข้าไปสู่ถ้ำ ตราบใดที่ยังไม่สามารถกู้ภัยให้เด็กเด็กทั้ง 13 คน ออกมาได้การหาทุกช่องทางในการนำเด็กออกมาก็ยังต้องเดินหน้า
“แต่ช่องทางหลักคือ การนำออกจากหน้าถ้ำ ช่องทางอื่นๆ เราได้นำกำลังนำอุปกรณ์โดยอากาศยานขึ้นไปแล้ว กำลังพลเจ้าหน้าที่ก็ปักหลักอยู่บนเขา เพราะฉะนั้นจะเดินนาน เพียงแต่อาจไม่เพิ่มอุปกรณ์ ไม่เพิ่มกำลังพลเข้าไป”
นอกจากนี้ นายณรงค์ศักดิ์ แถลงความคืบหน้า หลังหน่วยซีล พบนักฟุตบอลเยาวชนและโค้ชทีมหมูป่า อะคาเดมี 13 คนในถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน เมื่อคืนที่ผ่านมา ว่า โดยหน่วยซีลรายงานว่า สามารถเจาะทะลุจุดที่ยากที่สุดไปยังหาดพัทยาบีช และพบน้องๆอยู่ที่เนินนมสาว เลยจากพัทยาบีช ไปประมาณ 300-400 ม. โดยทีมแรกที่เข้าไปถึงคือ นักดำน้ำจากอังกฤษ และได้พูดคุยกับน้องๆ
โดยทีมแพทย์ มีการประเมินสภาพร่างกายของน้องๆทุกคนแบ่งเป็น 3 ระดับ ระดับสีแดง คิอเจ็บป่วยสูงสุด สีเหลือง เจ็ยป่วยปานกลาง และสีเขียวคือ เจ็ยป่วยเล็กน้อย ซึ่งเท่าีทแพทย์ทหารนักดำน้ำประเมินเบื้องต้น พบว่า เกือบทุกคนอยู่ในระดับสีเขียว มีบางคนอาจจะอยู่ระดับสีเหลือง ซึ่งหน่วยซีล ได้นำอาหาร พาวเวอร์เจล หรืออาหารเสริม ยารักษาโรคที่จำเป็น ให้กับน้องๆ
ส่วนการนำทุกคนอแกมาจากในถ้ำหลวง จะให้หน่วยซีล เป็นผู้ประเมินสถานการณ์ ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งระดับน้ำ สภาพร่างกายของน้องๆทุกคน เพราะเมื่อเจ้าหน้าที่พบทุกคนแล้ว ก็อยากให้นำตัวออกมาอย่างปลอดภัย 100% ทั้งนี้ เมื่อประเมินจากสภาพร่างกาย ตามที่แพทย์ ระบุก็จะนำร้องๆทึกคน ส่ง รถ.เชียงรายประชานุเคราะห์ โดยมีรถพยาบาบเตรียมไว้ 13 คัน และรถของญาติที่ติดตาม 1 คัน/4คน
อย่างไรก็ตาม ในระหว่างที่รอหน่วยซีล ประเมินอาการของน้องๆว่า จะนำออกมาจากถ้ำได้อย่างไร หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งการสูบน้ำและกาขุดเจาะเโพรงบนเขา จะยังคงดำเนินการต่อไป จนกว่าจะประเมินว่า วิธีการใดที่เหมาะสมกับการนำน้องทุกคนออกจากถ้ำ พร้อมกันนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ขอบคุณทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับภารกิจในครั้งนี้