ทหารบุกบ้านร่างทรงอ้างตนเป็นพระปิยะมหาราช สั่งยุติการกระทำหากแอบอ้างลักลอบอีก จะใช้ ม.112 เอาผิดทันที

กระแสสังคมจวกยับหลังมีภาพชายที่อ้างตนเป็นร่างทรงของรัชกาลที่ 5 และสมเด็จกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ บนหน้าสื่อสังคมออนไลค์หลายแห่ง ซึ่งวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ทหาร และตำรวจ ได้บุกเข้าตรวจสอบพร้อมสั่งให้ยุติการกระทำดังกล่าวที่อ้างตนเป็นร่างทรงในทุกกรณี มิเช่นนั้นอาจเจอมาตรา 112

กระแสสังคมบนโลกออนไลน์ รุมจวกยับถึงพฤติกรรมของชายคนหนึ่งที่แอบอ้างตนเป็นร่างทรงของพระปิยมหาราช รัชกาลที่ 5 และยังเป็นร่างทรงของสมเด็จกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ โดยระบุว่า บ้านของตนเป็นพระตำหนักประทับทรงของทั้ง 2 พระองค์ ณ เรือนหมอพร ตำบลท่าไข่ อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา

โดยเมื่อวานนี้ (7 มิ.ย.) พล.ต.วรยุทธ แก้ววิบูลย์พันธุ์ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 11 พร้อมด้วย พ.อ.ธิติพันธ์ ฐานะจาโร รองผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 11 ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทหารชุดรักษาความสงบเรียบร้อยกองพลทหารราบที่ 11 นำกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองฉะเชิงเทรา บุกเข้าตรวจสอบบ้านเลขที่ 43/7 หมู่ 13 ต.ท่าไข่ อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ที่มีนายคเชนทร์ เล็กชอุ่ม อายุ 39 ปี เป็นเจ้าของบ้านและเป็นร่างทรงที่ปรากฏในสื่อสังคมออนไลน์ทางเจ้าหน้าที่จึงได้สอบถามถึงกระแสสังคมที่กำลังมีผลต่อความรู้สึกและความศรัทธาของประชาชนต่อพระปิยมหาราช รัชกาลที่ 5 และสมเด็จกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ถึงการกระทำที่ไม่เหมาะสมในการแต่งกายเรียนแบบให้ดูเหมือนและมีลักษณะคล้ายพระปิยมหาราชรัชกาลที่ 5 แถมมีข้อความระบุว่าเป็นร่างทรงของพระองค์ ซึ่งจากการสอบถามแล้วปรากฏว่า
นายนายคเชนทร์ บอกว่าเกิดจากความเข้าใจผิดและหลงคิดไปเองของประชาชนที่เดินทางมาหาตน ซึ่งยืนยันกับเจ้าหน้าที่ว่า ไม่เคยไปแอบอ้างว่าตนเป็นร่างทรงของใคร

ส่วนภาพที่ปรากฏบนสื่อสังคมออนไลค์เป็นภาพเก่าสมัย 3-4 ปีที่แล้ว ที่มีลูกศิษย์มาจัดงานในพิธีไหว้ครูให้ โดยเก้าอี้บันลังที่เห็นตามภาพเป็นการเช่ามาตั้งในช่วงที่มีการจัดงานพิธีไหว้ครู
ส่วนชุดที่สวมใส่ก็ยืนยันว่าเป็นการใส่แค่ครั้งนั้นครั้งเดียว และไม่เคยหยิบออกมาใส่อีกเลย พร้อมระบุว่าแท้จริงแล้วตนเองมีอาชีพทำบายศรี ทำขวัญนาค และตั้งศาลพระภูมิ หรืองานบวงทรวงต่างๆที่สร้างรายได้หาเลี้ยงตนเองและครอบครัว ซึ่งมิได้เกิดจากอาชีพทรงเจ้า หรือร่างทรงที่เที่ยวไปหลอกลวงใครๆ แต่เกิดจากความเข้าใจผิดและหลงเชื่อของบุคคลคนนั้น

ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ขอความร่วมมือให้ยุติการกระทำดังกล่าวที่เกี่ยวข้องกับร่างทรง และการแต่งกายเรียนแบบหรือให้มีลักษณะคล้ายกับพระปิยมหาราช รัชกาลที่ 5 ทั้งในบ้านและนอกบ้าน แต่ให้คงไว้ซึ่งอาชีพรับจ้างทำบายศรี ทำขวัญนาค และงานพิธีบวงทรวงต่างๆ ได้ตามปกติ