ผู้การทหารพรานที่ 36 เผยแม่ทัพภาคที่ 3 สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทหารพรานจัดชุดปฎิบ้ติการค้นหาผู้สูญหายชาวเมียนมา 3 ราย หลังเรือล่มกลางลำน้ำสาละวิน
เมื่อช่วงค่ำวันนี้ (5 ม.ค.61) พ.อ.ภาส วงศ์สารภี ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 36 ค่ายเทพสิงห์ อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน เปิดเผยความคืบหน้ากรณีค้นหาผู้สูญหายชาวเมียนมาจากเหตุเรือล่มกลางแม่น้ำสาละวิน เมื่อวันที่ 4 ม.ค. ที่ผ่านมา ว่า จากการออกค้นหาผู้สูญหายทั้งหมด 3 ราย ประกอบด้วย 1. นายกามู อายุ 22 ปี, นางหน่อมือ อายุ 55 ปี และ นายอี โมน่า อายุ 23 ปี ทั้งหมดเป็นชาวเมียนมา สัญชาติกะเหรี่ยง ยังไม่พบเจอผู้สูญหายดังกล่าวแต่อย่างใด ซึ่งทาง พล.ท.วิจักขฐ์ สิริบรรสพ แม่ทัพภาคที่ 3 มีความห่วงใยพี่น้องทั้ง 2 ฝากฝั่งสาละวินทั้งชาวไทยและเมียนมาร์ จึงได้สั่งการให้ทางกรมทหารพรานที่ 36 ตั้งศูนย์ในการออกค้นหาอำนวยการกำกับดูแลติดตามค้นหาผู้สูญหายทั้ง 3 คน ซึ่งจากการออกค้นหาพบว่าแม่น้ำสาละวินเป็นแม่น้ำที่นิ่งลึกและไหลเชี่ยวคงต้องใช้เวลาอีกหลายวันกว่าที่จะพบผู้สูญหาย โดยต้องใช้เวลาในการค้นหาอย่างต่อเนื่อง และขอให้พี่น้องที่ใช้เส้นทางในการเดินทางด้วยเรือตามลำน้ำสาละวินในการสัญจร เดินทางด้วยความระมัดระวัง ส่วนเจ้าของเรือควรจะมีอุปกรณ์ช่วยชีวิตติดเรือไว้ด้วย เช่น ห่วงชูชีพ เสื้อชูชีพ พร้อมที่จะช่วยเหลือ ราษฎรที่เรือล่มหรือเรือจมได้ทันท่วงที
ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา พ.อ.ภาส วงศ์สารภี ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 36 ค่ายเทพสิงห์ เดินทางตรวจพื้นที่เกิดเหตุเรือชาวเมียนมาล่มกลางแม่น้ำสาละวิน พร้อมจัดกำลังออกค้นหาผู้สูญหาย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 36 ได้รับแจ้งเมื่อวันที่ 4 ม.ค. ที่ผ่านมา โดยเรือที่ล่มกลางแม่น้ำสาละวินมี นายซอเกลอทู อายุ 19 ปี ชาวเมียนมา เป็นคนขับเรือบรรทุกผู้โดยสาร รวมทั้งหมดจำนวน 7 คน แล่นเรือมาจากบ้านจอท่า เพื่อไปส่งที่บ้านออเลาะ ฝั่งเมียนมา ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับบ้านท่าตาฝั่ง ต.แม่สามแลบ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน เมื่อเดินทางถึงบริเวณแก่งแม่ข่อ ซึ่งเป็นแอ่งน้ำวน เรือได้ประสบอุบัติเหตุพลิกคว่ำจมน้ำ ทำให้มีผู้สูญหายจำนวน 3 รายดังกล่าว
ทั้งนี้ พ.อ.ภาส กล่าวเพิ่มเติมว่า เรือที่เกิดอุบัติเหตุล่มกลางแม่น้ำสาละวินนั้นไม่ได้อยู่ในการควบคุมดูแลของเจ้าหน้าที่ เป็นเรือสัญจรของชาวบ้านฝั่งเมียนมาที่วิ่งรับจ้างไปมา ซึ่งเรือที่วิ่งในน่านน้ำสาละวินที่อยู่ในความควบคุมดูแลของเจ้าหน้าที่ไทยในระบบ จะมีทั้งหมด 45 ลำ เจ้าของเรือแต่ละลำก็จะต้องปฏิบัติตามกฎเงื่อนไข ความปลอดภัยของผู้โดยสารอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันอุบัติเหตุและส่งผลต่อความสูญเสียของชีวิตประชาชนที่อาศัยเส้นทางเรือในการสัญจร