ไทยปิดด่านกิ่วผาวอก ชี้เป็นพื้นที่อ่อนไหว ด้านนายอำเภอเชียงดาว หนุนผลักดันเป็นด่านถาวร ยกระดับการค้า-ท่องเที่ยว
19 มิ.ย.60 นักท่องเที่ยวจำนวนมากแห่ไปถ่ายภาพกับประตูเหล็กและแนวรั้วที่เป็นเส้นแบ่งเขตแดนไทย-เมียนมา บริเวณช่องทางกิ่วผาวอก อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ เป็นที่ระลึก หลังจากพากันไปรอที่หน้าประตูกันตั้งแต่เช้าเพื่อข้ามฝั่งไปท่องเที่ยวในเมียนมาผ่านช่องทางนี้ แต่ผิดหวังกันถ้วนหน้า เพราะทางการเมียนมาไม่อนุญาตให้เปิดช่องทางชั่วคราว
สำหรับการเดินทางข้ามช่องทางกิ่วผาวอกครั้งนี้ เป็นหนึ่งกิจกรรมโครงการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนกับประชาชนในพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมา สานสัมพันธ์หมู่บ้านเข้มแข็งตามแนวชายแดน ซึ่งจัดขึ้นมาแล้วหลายครั้งเพื่อให้ประชาชนทั้ง 2 ประเทศ ตลอดจนญาติพี่น้องได้พบปะกัน แต่ครั้งนี้เนื่องจากช่องทางนี้เป็นจุดที่มีความอ่อนไหวด้านความมั่นคง ทำให้ต้องมีการประสานงานของทั้งสองฝ่ายทุกครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่สามารถเปิดด่านชั่วคราวได้
ไม่เพียงแต่ประชาชนและนักท่องเที่ยวเท่านั้นที่ได้แค่ถ่ายภาพประตูเหล็กเป็นที่ระลึก แต่บรรดาพ่อค้าแม่ค้าที่ไปรอกันตั้งแต่เช้าก็ต้องผิดหวังไปด้วยเช่นกัน เพราะได้จัดเตรียมสินค้าไว้มากมายเพื่อนำไปขายให้กับประชาชนฝั่งเมียนมา ทำให้นำสินค้าออกไปเร่ขายตามหมู่บ้านต่าง ๆ ในฝั่งไทยแทน
นายสราวุฒิ วรพงษ์ นายอำเภอเชียงดาว กล่าวว่า ที่ผ่านมา จ.เชียงใหม่ ผลักดันให้มีการเปิดช่องทางกิ่วผาวอกเป็นด่านถาวร เนื่องจากเป็นจุดที่อยู่ใกล้กับเมืองเนปิดอว์ เมืองหลวงของเมียนมา เพียง 300 กิโลเมตร และห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่เพียง 120 กิโลเมตร ถือเป็นเส้นทางที่สะดวกต่อการค้าการลงทุน โดยในช่วงที่ผ่านมาเคยเปิดเป็นจุดผ่อนปรนชั่วคราว มีการค้าขายคึกคัก ในช่วงปี 2538-2539 มีมูลค่าการค้าปีละกว่า 100 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม หลังจากปี 2554 ช่องทางนี้ได้ปิดลง ทำให้มูลค่าการค้ากลายเป็นศูนย์จนถึงปัจจุบัน ซึ่งทางนายอำเภอเชียงดาว ระบุว่า ในระดับพื้นที่ยังคงผลักดันให้มีการเปิดด่านถาวร เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจการค้า การท่องเที่ยว ตลอดจนส่งเสริมความสัมพันธ์ของประชาชนของทั้งสองประเทศ