สถานการณ์พื้นที่ท้ายเขื่อนแก่งกระจาน ตอนนี้ยังคงมีปริมาณน้ำไหลทะลักอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด มีรายงานว่า ปริมาณน้ำจาก อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี กำลังไหลมาทางห้วยแม่ประจันต์ และมาที่เขื่อนแม่ประจันต์ อ.หนองหญ้าปล้อง จ.เพชรบุรี แต่ด้วยความจุของเขื่อนที่รับได้ไม่มากนัก อาจจะต้องปล่อยลงมาที่เขื่อนเพชร ซึ่งต้องรอดูสถานการณ์ว่าน้ำจะมาที่เขื่อนเพชรมากน้อยแค่ไหน แต่ตอนนี้ระดับน้ำจากท้ายเขื่อนแก่งกระจานเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ และยังเข้าท่วมรีสอร์ทอย่างหนัก
พื้นที่ท้ายเขื่อนทั้งบ้านเรือนประชาชนและรีสอร์ทต่าง ๆ ได้รับความเสียหายจากกระแสน้ำหลังจากเขื่อนแก่งกระจานระดับน้ำไหลผ่านสปิลเวย์ตามธรรมชาติ สูงกว่า 1 เมตร 70 เซนติเมตร ซึ่งปริมาณน้ำเขื่อนแก่งกระจาน ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ปี 2546 หรือในรอบ 15 ปี ปีนั้น จ.เพชรบุรี เกิดเหตุอุทกภัยครั้งใหญ่ระดับน้ำในเขื่อนแก่งกระจานอยู่ที่ 103 เปอร์เซ็นต์ของความจุอ่าง แต่ปี 61 ระดับน้ำเขื่อนแก่งกระจานสูงที่สุดเท่าที่เคยมีมา อยู่ที่ 109 เปอร์เซ็นต์ของความจุอ่าง หรือ 776 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยมีน้ำไหลเข้าเขื่อน 31 ล้านลูกบาศก์เมตร ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเร่งระบายในอัตราสูงสุด 23 ล้านลูกบาศก์เมตร/วัน
ส่วนทางเขื่อนเพชร เปิดประตูระบายน้ำเต็มที่ทุกบาน ทำให้คลองส่งน้ำทั้ง 4 สายมีปริมาณน้ำสูงขึ้นจนเต็มความจุของคลองแล้ว เจ้าหน้าที่พยายามเร่งปล่อยน้ำจากเขื่อนเพชรไปทางคลองระบายน้ำ D9 ที่เพิ่งสร้างเสร็จให้ออกไปทางปึกเตียน ไหลลงทะเลต่อไป แต่ประชาชนแถวนั้นกลัวว่า คลองระบายน้ำ D9 เป็นคันดินจะรับมือมวลน้ำได้มากน้อยแค่ไหน ทางกรมชลประทานยืนยันว่าคันดินไม่พังแน่นอน แม้ว่าจะมีปัญหาเรื่องคอสะพานที่เชื่อมต่อกันระหว่างสองฝั่งคลอง D9 ที่หลายคนกังวลว่าจะกัดเซาะจนชำรุดเสียหายหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ถ้าน้ำในคลอง 3 สายเต็ม ทางเขื่อนเพชรก็จะยกประตูระบายน้ำสูงขึ้นอีก แต่ระดับน้ำตอนนี้ที่ไหลผ่าน อ.ท่ายาง อยู่ในระดับเฝ้าระวัง ส่วนที่ไหลผ่าน อ.บ้านลาด และ อ.เมือง อยู่ในเกณฑ์วิกฤต ทำให้ทางจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พยายามผลักดันน้ำให้ไปลงที่อื่นโดยการปิดประตูระบายน้ำไม่ให้เข้าตัวเมือง แต่ถ้ามีฝนตกลงมาในพื้นที่ประมาณ 2-3 วัน ประกอบกับระดับน้ำจากเขื่อนเพชร เพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ อาจจะต้องปล่อยให้ กระแสน้ำไหลผ่านตัวเมืองเพชรบุรีตามธรรมชาติต่อไป
จ.หนองคาย ยังเฝ้าระวังน้ำโขงล้นตลิ่ง
ที่ภาคอีสาน สถานการณ์แม่น้ำโขงที่ จ.หนองคาย ระดับน้ำยังทรงตัว อยู่ที่ 12.69 เมตร ขณะที่ในพื้นที่เองไม่มีฝนแล้วแต่กระแสน้ำโขงไหลแรงและเชี่ยวกราก ทำให้น้ำโขงล้นตลิ่งเข้าตามท่อระบายน้ำ ในพื้้นที่ชุมชนจอมมณี ต.มีชัย เขตเทศบาลเมืองหนองคาย บ้านเรือนประชาชนเดือดร้อนกว่า 40 หลังคาเรือน เบื้องต้นได้ขนของขึ้นที่สูง หรือย้ายไปอยู่พื้นที่ใกล้เคียงเป็นการชั่วคราว ขณะที่ อบจ.หนองคาย นำเครื่องสูบน้ำเร่งระบายน้ำลงน้ำโขงเพื่อคลี่คลายสถานการณ์ ขณะที่ นายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการ จ.หนองคาย พร้อมด้วย นางวัชรินทร์ จิตรวิเศษ นายกเหล่ากาชาด จ.หนองคาย นำถุงยังชีพและเรือท้องแบนอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนผู้ประสบภัยแล้ว ส่วนพื้นที่การเกษตรพื้นที่ บริเวณบ้านเมืองหมี ต.เมืองหมี บ้านเวียงคุก ต.เวียงคุก อ.เมืองหนองคาย และบ้านเรือนประชาชนริมแม่น้ำโขงบางส่วน ต้องระดมย้ายสิ่งของขึ้นที่สูงและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
แชร์ภาพ “น้ำท่วมถ้ำหลวง” ล่าสุดสูงกว่า 1.3 เมตร
ปิดท้ายกันด้วยที่ถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย จุดที่เด็ก ๆ และโค้ชทีมหมูป่า อะคาเดมี่ แม่สายทั้ง 13 คนเคยติดอยู่ในถ้ำและเจ้าหน้าที่ช่วยเหลืออย่างปลอดภัย ล่าสุด ระดับน้ำท่วมมิดแทบทุกจุดในถ้ำแล้ว โดยเฉพาะปากถ้ำหลวงน้ำขึ้นสูงกว่า 1 เมตร 30 เซนติเมตร โดยเฟซบุ๊ก Wiangchai Berm Kunngamkwamdee โพสต์ภาพและข้อความบอกว่า การเดินทางมาสำรวจระดับน้ำในถ้ำหลวงครั้งนี้เป็นไปตามคำขอของ “นายเวิร์น อันสเวิร์ธ” นักสำรวจถ้ำชาวอังกฤษ อายุ 63 ปี ผู้เดินทางมาช่วยสำรวจค้นหาทีมหมูป่าตั้งแต่วันแรก และเป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญที่ช่วยให้ภารกิจช่วยหมูป่า 13 ชีวิตออกมาจากถ้ำหลวงได้อย่างปลอดภัย ก็ทำเอาบางคนในโซเชียลมีเดียอดคิดถึงภารกิจช่วยทีมหมูป่าออกมาจากถ้ำหลวงอยู่ไม่น้อย เพราะก่อนหน้าที่ทีมหมูป่าได้รับการช่วยเหลือนั้น มีผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์ว่าทีมหมูป่าอาจจะต้องอยู่ในถ้ำหลวงนานกว่า 4 เดือนเพื่อรอให้น้ำลดลง แต่ว่าปฏิบัติการนำ 13 ชีวิต เริ่มตั้งแต่วันที่ 8 – 10 ก.ค.ถือว่าทีมช่วยเหลือตัดสินใจถูกต้องเพราะหลังจากนั้นไม่นาน น้ำเข้าท่วมถ้ำหลวงอย่างต่อเนื่อง