นับวัน นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามายังประเทศไทยต่างมีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งถือว่าเป็นผลดีต่อเส้นทางเศรษฐกิจของบ้านเรา ทั้งต่อภาครัฐและท้องถิ่น แต่ในมุมกลับกัน มีข้อดีก็ต้องมีข้อเสียตามมา นั่นคือ การกระทำของนักท่องเที่ยวบางกลุ่มที่ไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบ จึงส่งผลเสียต่อระบบนิเวศน์ของธรรมชาติให้แย่ลง
นี่เป็นภาพจากอาสาสมัครอุทยานแห่งชาติตะรุเตา ที่บันทึกการกระทำของกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีน ซึ่งมีพฤติกรรมฝ่าฝืนกฎข้อห้าม ที่บริเวณหน้าหาดซันไรซ์ เกาะหลีเป๊ะ จ.สตูล โดยในภาพพบว่า นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ ได้ใช้มือจับเม่นทะเลขึ้นมาจากน้ำ ใช้มือแหย่ดอกไม้ทะเล พายเรือคายัคบนแนวปะการังในช่วงน้ำลด การดำน้ำตื้น ขณะน้ำลด จนมีการเหยียบย่ำแนวปะการังจนแตกหัก และการหยิบจับปะการังและปลาดาวกลับไปที่พักด้วย
ทั้งนี้ นายนันทพล เด็นเบ็น รองประธานกลุ่มรีฟกาเดี้ยน จ.สตูล ยอมรับว่า ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา กลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนได้สร้างงานและรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่จำนวนไม่น้อย แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า พฤติกรรมของนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้และที่ผ่านมา ก็สร้างผลเสียให้กับธรรมชาติบ่อยครั้งเช่นกัน เพราะมีการฝ่าฝืนกฎระเบียบและข้อห้ามของสถานที่ท่องเที่ยว
นอกจากนี้ ยังพบว่า นักท่องเที่ยวชาวจีนมักไม่เลือกใช้มัคคุเทศก์ทางทะเลในการแนะนำตลอดการท่องเที่ยว และใช้ช่องว่างทางกฎหมายในการประหยัดค่าใช้จ่าย จนทำให้เกิดความเสียหายต่อทรัพยากรทางธรรมชาติอย่างที่เห็น
นายนันทพล ยังระบุอีกว่า ที่ผ่านมา ปัญหาทัวร์นักท่องเที่ยวชาวจีนเสียชีวิตจากการดำน้ำบ่อยครั้ง เพราะเกิดจากการขาดความรู้ในการเตรียมตัวก่อนลงน้ำ การดำน้ำหรือว่ายน้ำในจุดต้องห้าม รวมทั้งการปฏิบัติตัวที่เป็นภัยต่อทรัพยากรท้องทะเล อย่างการให้อาหารปลา และการเหยียบย่ำปะการัง โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ซึ่งเรื่องนี้ต้องฝากไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้หามาตรการมาควบคุมและบังคับ รวมถึงช่วยกันดูแลไม่ให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก