ตำรวจบุกจับร้านคาราโอเกะกลางเมืองเชียงใหม่ หลังนักท่องเที่ยวเกาหลีร้องถูกโขกค่าดริ้ง กว่า 5 ล้านวอน 1.6 แสนบาท
ตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่ ร่วมกับตำรวจท่องเที่ยว นำกำลัง เข้าตรวจสอบร้านคาราโอเกะ ย่านถนนช้างคลาน อำเภอเมืองเชียงใหม่ ที่ได้รับแจ้งว่าคิดราคาแพงเกินจริง เอาเปรียบนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้าไปใช้บริการมานาน พบว่าหน้าร้านปิด แต่ด้านในยังเปิดให้บริการและยังมีการจำหน่ายสุราและมีพนักงานสาวนับสิบคนนั่งดริ้งกับลูกค้า ตรวจสอบพบว่าไม่มีใบอนุญาตเปิดสถานบริการ จึงควบคุมตัวคนดูแลรวมทั้งและพนักงานสาวนั่งดริ้ง ส่งพนักงานสอบสวน ดำเนินคดีข้อหาจำหน่ายสุราเกินเวลา เปิดสถานบริการไม่มีใบอนุญาต
ส่วนร้านคาราโอเกะอีกแห่งหนึ่ง ย่านถนนเจริญประเทศ อ.เมืองเชียงใหม่ ที่ถูกนักท่องเที่ยวชาวเกาหลีร้องเรียน ว่าคิดเงินค่าใช้บริการมากกว่า 5 ล้านวอน หรือ 1.6 แสนบาท เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบไหวตัวปิดร้านไปก่อน โดยร้านทั้ง 2 แห่ง อยู่ในเครือเดียวกัน
พ.ต.อ.ปิยะพันธุ์ ภัทรพงศ์สินธุ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ เผยว่า ได้รับการร้องเรียน จากนักท่องเที่ยวชาวเกาหลีว่าเข้าไปใช้บริการร้านคาราโอเกะแห่งหนึ่ง และถูกทางร้านค่าใช้บริการมากกว่า 5 ล้านวอน หรือ 1.6 แสนบาท ซึ่งได้ตรวจสอบข้อมูลทางร้านอ้างว่าเป็นค่านั้งดริ้งและค่าเครืองดื่ม เนื่องจากลูกค้ารายนี้นั่งหลายชั่วโมง หลังจากนั้นทางร้านและลูกค้าได้เจรจากัน ทางร้านยอมคืนเงินให้ 6 หมื่นบาท แต่นักท่องเที่ยวเกาหลีรายนี้ยังรู้สึกว่าถูกเอาเปรียบ จึงเข้าแจ้งความกับตำรวจ
ขณะที่ร้านคาราโอเกะที่ถูกร้องเรียน เจ้าหน้าที่ยังเข้าตรวจสอบไม่ได้ เนื่องจากปิดบริการ แต่พนักงานสอบสวนกำลังรวบรวมพยานหลักฐาน หากพบว่าเอาเปรียบนักท่องเที่ยวจริง จะดำเนินคดีในข้อหาฉ้อโกง โดยนักท่องเที่ยวชาวเกาหลีจะเข้าพบพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่ เพื่อเจรจาขอเงินคืนเพิ่มจากร้านคาราโอเกะคู่กรณีอีกครั้ง