ผอ.สถาบันมะเร็งแห่งชาติ เผยจำนวนผู้ป่วยมะเร็งปอดจากการสูบบุหรี่ เพิ่มขึ้นร้อยละ 80 หากเลิกสูบได้จำนวนลดลงกว่า 8,000 คนต่อปี
นพ.ธีรพล โตพันธานนท์ อธิบดีกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยเนื่องในวันงดสูบบุหรี่โลก (31 พฤษภาคม ของทุกปี) ว่า บุหรี่นอกจากเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เกิดมะเร็งหลายชนิดแล้ว ยังเป็นสาเหตุให้เกิดโรคถุงลมโป่งพองอีกด้วย เนื่องจากบุหรี่ที่มีการเผาไหม้จะมีสารเคมีกว่า 4,000 ชนิด เมื่อสูดดมเข้าร่างกายจะส่งผลให้เซลล์ในร่างกายเปลี่ยนเป็นเซลล์มะเร็งส่งผลเสียต่อร่างกายอีกหลายประการ เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจตีบตัน ความดันโลหิตสูง ไอเรื้อรัง หลอดลมอักเสบ
ขณะที่ นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ ผอ.สถาบันมะเร็งแห่งชาติ กล่าวเพิ่มเติมด้วย ว่า ปัจจุบันผู้ป่วยมะเร็งปอดมีมากกว่า 10,000 รายต่อปี โดยร้อยละ 80 เกิดจากการสูบบุหรี่ ในส่วนของการเลิกบุหรี่อาจไม่ใช่เรื่องง่าย แต่หากมีความตั้งใจอย่างแน่วแน่ก็จะสามารถเลิกได้แน่นอน โดยการหยุดสูบบุหรี่จะช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งปอดถึงร้อยละ 60-70 และถ้าหากหยุดสูบบุหรี่ทั้งประเทศ เชื่อว่าจำนวนผู้ป่วยมะเร็งปอดจะลดลงประมาณ 8,000 คนต่อปี ซึ่งบุหรี่เป็นสิ่งเสพติดที่ได้รับความนิยมจากคนในสังคมมากที่สุดทั่วโลก และเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดโรคมะเร็ง ดังนั้น จึงเกิดวันงดสูบบุหรี่โลก เพื่อกระตุ้นให้คนสูบบุหรี่ตระหนักถึงอันตรายของบุหรี่ต่อตัวเองและคนรอบข้าง
ขอขอบคุณภาพจาก สสส. (ภาพข่าวไม่เกี่ยวกับเนื้อข่าว)